Similar Posts
ทำไมการคิดถึงความตายจึงเป็นสิ่งที่ดี
#ทำไมการคิดถึงความตายจึงเป็นสิ่งที่ดีการคิดถึงความตายสามารถช่วยเราประเมินค่านิยมและกำหนดเป้าหมายในชีวิตใหม่ได้มันทำให้เราตระหนักถึงความเด็ดขาดค่อยๆ ขยายจิตสำนึกของเรา #เรามักจะเสียสละปัจจุบันของเราโดยไม่รู้ว่าสิ่งนั้นเชื่อมโยงกับอนาคตกับจุดประสงค์ของเราอย่างไร และกับสิ่งที่สร้างความหมายในชีวิตเรา:ค่านิยมและเป้าหมายของเราคนที่เรารัก และชีวิตของเราร่วมกัน ผลทันทีของการคิดเกี่ยวกับความตายของเราคือการขยายมุมมองของเราและมุ่งความสนใจไปที่ช่วงเวลาปัจจุบัน #ผลที่ตามมา:เราหลีกเลี่ยงและปลดปล่อยตัวเองจากการปฏิเสธอย่างง่ายดายการนึกถึงความตายของเราทำให้เราตระหนักว่าทุกครั้งที่เราหายใจเข้าไปเราจะเข้าใกล้จุดจบของเรามากขึ้น ดังนั้นเราจึงจัดลำดับความสำคัญของเวลาใหม่และเพิ่มมูลค่าของมัน มีจุดในการสูญเสียมันกับคนที่ไม่มีความจำเป็นไม่มีท่อระบายน้ำพลังงานของเรา สามารถใช้เวลาเดียวกันนี้กับผู้คนที่ทำให้วันของเรามีค่าควรแก่การอยู่ ผู้ผลักดันให้เราพัฒนาตนเองให้ดีขึ้น และผู้ที่สละเวลาของเราไปกับการลงทุนเหล่านั้น เราทำในสิ่งที่ถูกต้องการคิดถึงความตายทำให้เราใกล้ชิดกับสิ่งที่เราต้องการมองย้อนกลับไปในชีวิตของเราในช่วงเวลาสุดท้าย การนึกถึงความตายของเราเองทำให้เราตระหนักว่าสิ่งเดียวที่จะอยู่รอดคือคุณค่าที่เราปลูกฝังและมรดกที่เรากำลังทิ้งไว้ ดังนั้น ความตายจึงทำให้เรากลับมาพิจารณาวิถีชีวิตของเราใหม่ ด้วยหลักศีลธรรม ค่านิยม และการทำสิ่งต่าง ๆ ที่สำคัญจริงๆ #เราฝังแรงจูงใจของเราไว้การคิดถึงความตายทำให้เราประเมินคุณค่าในตนเองอีกครั้ง เมื่อเราค้นพบสิ่งที่สำคัญจริงๆ ในชีวิต เราก็ปรับตัวเองให้สอดคล้องกับค่านิยมที่แท้จริงของเรา ด้วยเหตุนี้ เราจึงรวบรวมแหล่งที่มาของแรงจูงใจภายใน #และสามารถยกระดับจิตวิญญาณของเราได้อย่างง่ายดายเมื่อใดก็ตามที่เรารู้สึกเหนื่อยล้า #เราทำในสิ่งที่เราต้องการจะทำการคิดถึงความตายเป็นรูปแบบการไตร่ตรองตนเองที่ทรงพลังเช่นกัน การใคร่ครวญเรื่องความเป็นมรรตัยช่วยให้เรา #เชื่อมต่อกับการเรียกที่แท้จริงของหัวใจ ดังนั้น การนึกถึงความตายสามารถล้างม่านควันที่เกิดจากแรงกดดันทางสังคม และเราสามารถกำหนดความหมายของการประสบความสำเร็จใหม่ได้ (เช่น การมีครอบครัวที่มีความสุขและเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน สำคัญกว่าการมีทรัพย์สินมากหรืออาชีพที่คอยดูแลเราตลอดเวลา จากคนที่เรารัก) #เนื่องจากแรงบันดาลใจของคุณจะ internalized และมาจากภายในตัวคุณคุณจะไม่พบความต้องการ (หรือความดัน) ของการมีที่จะอธิบายให้คนอื่น ๆ สิ่งที่คุณต้องการจะทำอย่างไรกับชีวิตของคุณ #เราได้รับหลักการใหม่: เราไม่ต้อนรับใครก็ตามและทุกสิ่งที่ลดคุณค่าดูหมิ่นและไม่คำนึงถึงเวลาของเรา เมื่อกระบวนการจัดลำดับความสำคัญเป็นไปตามหลักการแล้ว #การกำจัดคนที่เป็นพิษออกจากชีวิตเราจะง่ายขึ้น ดูน้อยลง
คุณรู้หรือไม่ว่าโลกที่คุณคิดว่ามันสมบูรณ์แบบ
คุณรู้หรือไม่ว่าโลกที่คุณคิดว่ามันสมบูรณ์แบบอันที่จริงแล้วมันไม่ได้สร้างความสมบูรณ์ให้กับคุณได้ตลอดชีวิตอย่างที่คุณเข้าใจเพียงลำพังหรอกยังมีอีกฟากฝั่งหนึ่งเสมอที่เค้ารอคอยความหวังและกำลังใจจากคุณเมื่อคุณหันหลังกลับคุณจะเห็นเรื่องราวบางอย่างที่สะท้อนความมั่นคงในชีวิตและจิตใจของตัวเองคุณจะมีความหวังในการเริ่มต้นที่จะมีชีวิตที่เข้าใจและมีความหมายต่อตนเองมากยิ่งขึ้นคุณจะเห็นคุณค่าในความที่คุณได้มีโอกาสได้เกิดมาเป็นคนและคุณจะยิ่งมีคุณค่าถ้าหากชีวิตของคุณที่มีอยู่นี้เป็นประโยชน์ต่อแผ่นดินและผู้อื่น
ให้ชีวิตมันเป็นต้นแบบของการเรียน
ให้ชีวิตมันเป็นต้นแบบของการเรียนรู้#ของขวัญที่ดีที่สุดคือการรู้สึกตัว#นั่งสมาธิก่อนนอนด้วยนะคะ
เทวดาประจำตัวมีจริง
#เทวดาประจำตัวมีจริงครูจะพูดสิ่งนี้ จากรุ่นสู่รุ่นคำส่งท้ายของครูที่ จะฝากถึงลูกๆทุกรุ่นมันไม่ง่ายเลยในชีวิตนี้ที่เราจะได้เจอเทวดาประจำตัว และมันไม่ง่ายเลยในชีวิตนี้ที่เราจะหาความรู้จากเทวดาประจำตัวจงเคี่ยวกรรมตัวเองและหาครูผู้รู้ช่วยชี้แนะ #ครูมาเพื่อส่งลูกๆกลับทางเดินของตน#ไม่ว่าจะไปอยู่ที่ไหนของโลกใบนี้#จงอย่าลืมตนคลอดคนที่ 4(18.50)
เทวดาประจำตัวมาจากไหน
#เทวดาประจำตัวมาจากไหน“ครูไม่สามารถบอกคุณได้ แสงมาได้อย่างไร สิ่งที่ครูรู้ คือมันโบราณกว่า กว่าจินตนาการ ที่มันเดินทาง ทั่วเวิ้งว้างอันน่าพิศวง ที่จะมาหาเรา ที่มันรัก กำลังค้นหา อะไรที่ซ่อนอยู่ สิ่งที่หายไป สิ่งที่ลืม หรืออยู่ในอันตราย หรือเจ็บปวด ว่ามีความชื่นชอบ สำหรับร่างกาย เพื่อหาหนทาง ต่อเนื้อ สำหรับติดตามขอบ ของรูปแบบ เพื่อส่องประกาย ผ่านดวงตา มือ, หัวใจ. ครูไม่สามารถบอกคุณได้ แสงมาได้อย่างไร แต่มันเป็นเช่นนั้น ว่ามันจะ ว่ามันเป็นไปตามทางของมัน สู่ความมืดมิดที่สุด ที่โอบล้อมคุณ แม้ว่าจะดูเหมือน มาช้านาน หรือมาเป็นรูปเป็นร่าง คุณไม่ได้คาดการณ์ไว้ แล้วก็ ขอให้เราในวันนี้ หันตัวเราเข้าหามัน ขอให้เราเงยหน้าขึ้น เพื่อให้มันมาหาเรา ขอให้เรางอร่างกายของเรา เพื่อทำตามส่วนโค้งที่ทำ ขออนุญาติเปิด และเปิดมากขึ้น และยังคงเปิดอยู่ สู่แสงสว่างอันประเสริฐ ที่มา” รักนะจ๊ะ
ความศักดิ์สิทธิ์ของอักขระนาครีย์
#ความศักดิ์สิทธิ์ของอักขระนาครีย์#และอักขระกูโบ๊ส “เทวดาพูดภาษาอะไร?”มาทำความรู้จัก ภาษา “กูโบ๊ส – กูต๊าบ”เทพยาดาท่านใช้สื่อสารกันภาษา “กูโบ๊ส – กูต๊าบ” #ภาษาของพรหมใช้ คือ กูโบ๊สส่วนภาษาของวิญญาณในภพสัมภเวสี และวิญญาณชั้นต่ำใช้ คือ กูต๊าบ ในการติดต่อและกระทำพิธีกรรมพวกพรหมชั้นสูงจะใช้ภาษา “กูโบ๊สขั้นสูง” เรียกว่า “ปุริสคาเบ๊ส” พรพรหมชั้นกลางใช้กูโบ๊สแบบ “รอเฟน”พวกพรหมชั้นต่ำและเทพชั้นสูงให้กูโบ๊สแบบ “มินกะเอน” ในการติดต่อสื่อสารและกระทำพิธีพวกวิญญาณเทพชั้นกลางและเทพเจ้าโดยทั่วไป ใช้ภาษา “เช็คราวาตี” ในการติดต่อและกระทำพิธีคัมภีร์ศาสนาพราหมณ์ยุคดึกดำบรรพ์ใช้อักขระกูโบ๊สจารึกและปราชญ์ทางนิรุกติศาสตร์ลงความเห็นว่า “ภาษากูโบ๊ส คือ ต้นกำเนิดของอักขระเทวนาครีย์” #ในประเทศไทย ยังมีผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในภาษากูโบ๊ส – กูต๊าบ นั่นคือ ดร.พระธรรมโมลี (ทองอยู่ ญาณวิสุทฺโธ) หลวงพ่อทองอยู่ไปศึกษาสันสกฤตระดับปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยมัทราส เมืองมัสราส รัฐทมิฬนาดู ประเทศอินเดียในปี พ.ศ. ๒๕๑๕ โดยทำวิทยานิพนธ์เรื่อง “ASHVAGHOSA’S WORK” (งานของท่านอัศวโฆษ) ท่านอัศวโฆษ นี่แหละคือเสาเอกของบวรพุทธศาสนานิกายมหายาน โดยลูกศิษย์ท่านนามว่า นาคารชุน นำมาปฏิบัติและเผยแพร่ จนกลายเป็นนิกายที่สำคัญไป ซึ่งยึดเอา อวตังสกสูตร เป็นแม่บทของนิกาย คามแตกฉานอย่างกว้างไกลและลุ่มลึกในภาษาสันสกฤตของหลวงพ่อเจ้าคุณ…