จงทำหน้าที่ของตนให้ดี
จงทำหน้าที่ของตนให้ดีให้สมกับ ชีวิตนี้ (เขาเลือกคุณ)จิตที่พัฒนาดีแล้ว จะเดินหน้าต่อไป (สู่เส้นชัยและทางของมัน)
จงทำหน้าที่ของตนให้ดีให้สมกับ ชีวิตนี้ (เขาเลือกคุณ)จิตที่พัฒนาดีแล้ว จะเดินหน้าต่อไป (สู่เส้นชัยและทางของมัน)
#ผู้หยั่งรู้ ตามหลักจิตวิทยา… Empathy(การหยั่งรู้วาระจิต)แบ่งออกเป็น 3 ลักษณะ…คือ 1. ‘#การหยั่งรู้ที่มีความเข้าใจในด้านของปัญญา และองค์ความรู้ ‘ซึ่งมีขีดความสามารถในการเข้าใจว่าผู้คนรู้สึกอย่างไร และกำลังคิดอะไรอยู่ และการหยั่งรู้ในลักษณะนี้ จะทำให้เกิดการสื่อสารได้ดียิ่งขึ้น และช่วยให้เกิดการถ่ายทอดข้อมูลที่สามารถเข้าถึงผู้อื่นได้อย่างตรงประเด็นที่สุด 2. ‘#การหยังรู้วาระจิตในด้านอารมณ์’(หรือที่เรียกว่า รับอารมณ์ผู้อื่น) จะมีขีดความสามารถในการแบ่งปันความรู้สึกของบุคคลอื่น ซึ่งบางคนได้เปรียบเทียบไว้คล้ายประโยคที่ว่า…. “ความเจ็บปวดของคุณมันอยู่ในหัวใจของฉัน” …..ซึ่ง การหยั่งรู้ ฯ ในลักษณะนี้ จะทำให้เกิดการสร้างอารมณ์ร่วมในการเชื่อมโยงซึ่งกันและกัน 3. ‘#การหยั่งรู้ที่เป็นไปด้วยความเมตตา-กรุณา’ (หรือที่เรียกว่า เอื้ออาทร ) ซึ่งมีลักษณะของการแสดงออกที่มากกว่าแค่การทำความเข้าใจผู้อื่นหรือแค่แบ่งปันความรู้สึกให้กับพวกเขา: แต่การหยั่งรู้ในลักษณะนี้…มันกระตุ้นให้เกิดการลงมือทำจริง ๆ… #แต่สำหรับ Empathy …จะทำมากกว่าแค่แสดงความเสียใจหรือส่งการ์ด.. แต่จะเริ่มให้เวลาไปกับความพยายามในการใช้การหยั่งรู้ในระดับปัญญา ฯ (ลักษณะที่ 1)เพื่อค้นหาว่า– พวกเขาสูญเสียใคร ?– พวกเขาใกล้ชิดกับคนนี้มากแค่ไหน?– และนอกจากพวกเขาจะได้รับความรู้สึกเจ็บปวดและสูญเสียแล้ว ชีวิตของพวกเขาจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ? ฯ #ตามต่อด้วยการหยั่งรู้ด้านอารมณ์ (ลักษณะที่ 2)ซึ่งจะทำให้ไม่เพียงแค่เข้าใจความรู้สึกของเพื่อน และแบ่งปันให้พวกเขาเท่านั้น แต่จะพยายามเชื่อมต่อกับพวกเขาด้วยความรู้สึกเศร้าโศกอย่างลึกซึ้งและความเจ็บปวดทางอารมณ์ที่มาจากภายในตัวคุณ ซึ่งคุณยังคงจดจำได้เมื่อคราวที่คุณได้สูญเสียใครบางคนไป หรือหากคุณไม่เคยมีประสบการณ์ในการสูญเสียเช่นพวกเขา ก็อาจเกิดจินตภาพขึ้นว่าคุณรู้สึกอย่างไรหากคุณต้องสูญเสียใครบางคน #ท้ายที่สุด (ลักษณะที่ 3)การหยั่งรู้ที่ทำให้คุณต้องลงมือปฏิบัติที่ทำให้คุณอาจเข้าไปช่วยให้คำแนะนำ ปรึกษาในเรื่องนั้นๆ เพื่อที่เพื่อนของคุณจะได้ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับปัญหา…
คุณรู้หรือไม่ว่าโลกที่คุณคิดว่ามันสมบูรณ์แบบอันที่จริงแล้วมันไม่ได้สร้างความสมบูรณ์ให้กับคุณได้ตลอดชีวิตอย่างที่คุณเข้าใจเพียงลำพังหรอกยังมีอีกฟากฝั่งหนึ่งเสมอที่เค้ารอคอยความหวังและกำลังใจจากคุณเมื่อคุณหันหลังกลับคุณจะเห็นเรื่องราวบางอย่างที่สะท้อนความมั่นคงในชีวิตและจิตใจของตัวเองคุณจะมีความหวังในการเริ่มต้นที่จะมีชีวิตที่เข้าใจและมีความหมายต่อตนเองมากยิ่งขึ้นคุณจะเห็นคุณค่าในความที่คุณได้มีโอกาสได้เกิดมาเป็นคนและคุณจะยิ่งมีคุณค่าถ้าหากชีวิตของคุณที่มีอยู่นี้เป็นประโยชน์ต่อแผ่นดินและผู้อื่น
คือเราเลือกสิ่งใดไว้ในจิตใต้สำนึกของเรา#จงปล่อยสิ่งที่คุณได้พยายามแล้วอย่างเต็มที่ เต็มใจ เต็มกำลัง แล้วสักวันคุณจะพบเจอสิ่งที่คู่ควรเราต้องขอบคุณคนที่ให้โอกาสเราและไม่กระทำความผิดอีก หาโอกาสที่จะตอบแทนบุญคุณเพราะพวกเขาให้โอกาสเริ่มต้นใหม่กับเรา ๛คุรุจิตวิญญาณครูปุ๊ยแม่ครูน้อย๛ครูผู้เชื่อมโยงสนามพลังงานเข้าสู่มิติที่ห้าได้จริงมากกว่า 160 ชีวิตครูสอนให้ผู้คนรู้วิธีที่จะเป็นผู้เชี่ยวชาญในจิตใจและเข้าถึงจิตวิญญาณ#ครูผู้เชื่อมโยงสนามพลังงานเข้าสู่มิติที่ 5#ครูผู้ถ่ายทอดมิติทางจิตและวิญญาณศาสตร์
อย่าปล่อยให้วันเวลาและค่ามนุษย์ลดคุณค่าในตัวคุณ #ให้สูญเปล่า ปิยะมิตรการคบกันเพียงเพื่อผลประโยชน์ร่วมกันนั้นไม่#อาจจะจัดเป็นเพื่อนที่แท้จริงได้ คำว่าเพื่อนนั้นมีความหมายมากจริงๆและถ้าเราไม่เคยเพ่งพินิจในเรื่องนี้เราจะไม่ทราบเลยว่าตามความเป็นจริงแล้วในชีวิตของเรานี้เพื่อนเป็นผู้ที่มีบทบาทสูงยิ่งต่อวิถีชีวิตของเราอย่างชนิดที่เราคาดไม่ถึงเลยทีเดียว #น่าเสียดายที่พวกเราในสังคมไม่ค่อยจะมีเพื่อน #เพื่อนให้ความหมายของมิตรไมตรีที่แท้ไม่ใช่เพื่อนเทียมหรือเพื่อนกิน ส่วนใหญ่เรามีคนรู้จักกันเยอะแยะแต่ไม่ค่อยมีเพื่อนพระพุทธเจ้าทรงทราบข้อเท็จจริงเหล่านี้ดี ครั้งหนึ่งพระอานนท์กราบทูลขึ้นว่า #เพื่อนนี้เป็นครึ่งหนึ่งของพรหมจรรย์ทีเดียว แต่พระพุทธองค์ไม่เห็นด้วยพระองค์ท่านตรัสว่าอย่าพูดเช่นนั้นอานนท์ #เพื่อนเป็นทั้งหมดของพรหมจรรย์ทีเดียวหมายความว่าการประพฤติปฏิบัติเพื่อความสิ้นทุกข์เพื่อการบรรลุธรรม ขึ้นอยู่กับเพื่อนด้วย 100% จะบรรลุหรือไม่ก็อยู่ที่เพื่อนของแต่ละคนนั่นแหละไม่ใช่ว่าเพื่อนจะอุ้มไปส่งที่ นิพพานอะไรทำนองนั้นเพียงแต่ว่าการปฎิบัติธรรมของเราจะไม่สามารถเป็นไปได้โดยราบรื่นหากเพื่อนไม่เกื้อหนุน จากคำตรัสของพระพุทธองค์เราสามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ทั่วไปในเรื่องอื่นๆได้ด้วย ไมตรี มิตร เพื่อน สหายรักคำเหล่านี้เล็งไปที่สิ่งเดียวกันคือความสัมพันธ์อันงดงามของบุคคลสองคนหรือหลายคนและจะต้องมุ่งไปที่ความสัมพันธ์ด้านบวกเท่านั้นทั้งนี้เพราะการคบกันเพียงเพื่อผลประโยชน์ร่วมกันนั้นไม่อาจจะจัดเป็นเพื่อนที่แท้จริงได้จะเป็นได้ก็แต่ผู้ร่วมหุ้นส่วนผลประโยชน์กันในเชิงการค้าหากำไรจากคนอื่นเท่านั้นและ #คนพวกนี้สามารถที่จะเลิกคบกันได้อย่างเลือดเย็น หากเกิดมีใครคนใดคนหนึ่งขวางทางเข้าไม่ว่าผลประโยชน์นั้นๆจะเป็นวัตถุทรัพย์สินอำนาจชื่อเสียงหรือเกียรติยศก็ตาม #ดังนั้นขอให้เรายินดีและชื่นชมกับไมตรีสองคน#หรือหลายหลายคนซึ่งนับวันจะหาได้ยากยิ่งในสังคมเมืองในปัจจุบันนี้ นานมาแล้วมีมิตรรักคู่หนึ่งคนหนึ่งมีความชำนาญในการเล่นพิณเป็นอย่างมากและอีกคนหนึ่งก็มีความชำนาญในการฟังอย่างมากเมื่อคนหนึ่งบรรเลงหรือขับร้องถึงขุนเขาอีกคนหนึ่งจะกล่าวว่า …ฉันเห็นขุนเขาตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้าเราทีเดียวล่ะ เมื่อคนหนึ่งบรรเลงถึงสายน้ำอีกคนหนึ่งฟังอยู่ก็อุทานออกมาว่า …..นี่ไงสายธารที่กำลังเลื่อนไหลแต่เมื่อมิตรซึ่งเป็นผู้ฟังได้ล้มเจ็บและสิ้นชีวิตลง มิตรคนแรกผู้ชำนาญในการบรรเลงพิณก็ได้ตัดสายพิณของเค้าเสียและไม่ยอมเล่นมันอีกเลยนับตั้งแต่นั้นมาการตัดสายพิณจึงกายเป็นเครื่องหมายแห่งมิตรภาพอันแน่นแฟ้นและแนบแน่นของมิตรรักทั้งหลายตลอดมา #ธรรมนั้นอยู่เหนือเกินกว่าความสามารถของภาษาที่พูดถึง #?????????วิทยฐานะ #อัครบุคคลแห่งชาติ(พรหมนาคา) ประจำปี 2564สาขา ผู้ส่งเสริมเผยแผ่ศาสนาดีเด่น #ทูตวัฒนธรรม(ต้นแบบสังคมบุคคลของชาติ)ประจำปี 2564โครงการอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยสืบสานสู่ประชาคมอาเซียนสาขา ด้าน ส่งเสริมศาสนาดีเด่น
#พระโพธิสัตว์ที่ประทับอยู่ในใจไม่ค่อยยอมค้นหา แค่พอเดือดร้อนก็ค่อยเรียกพระโพธิสัตว์ภายนอกมาขัดตาทัพไปวันๆใจพระโพธิสัตว์ในตัวที่ประกอบด้วย ปัญญา กรุณา ปณิธานและความงดงามแห่งการใช้ชีวิตไม่รู้หายไปตั้งแต่เมื่อไร#ไม่เคยเห็นจะมีใครตามหา #จะต้องเรียนวิชาพระโพธิสัตว์พื้นฐานซ้ำๆไปถึงเมื่อไร ไม่อยากขยับวิริยะฐานะกันบ้างเหรอเพียรกันแทบตาย ผ่านพบชาติมากันไม่จบไม่สิ้น #สุดท้ายก็พบแต่ความล้มเหลว หันมาใส่ใจพระโพธิสัตว์ในตัวกันบ้างนะเมื่อใส่ใจ ” ใจพระโพธิสัตว์ ” ในตัว ทุกๆที่ที่ได้ยืนอยู่ ก็ประดุจพุทธเกษตรนั่นเอง