พลังแห่งจิตวิญญาณ พิษคืออะไร?
พลังแห่งจิตวิญญาณ พิษคืออะไร? อะไรที่เกินความต้องการคือยาพิษ อาจเป็นอำนาจ ความเกียจคร้าน อาหาร อัตตา ความทะเยอทะยาน ความไร้สาระ ความกลัว ความโกรธ หรืออะไรก็ตาม
พลังแห่งจิตวิญญาณ พิษคืออะไร? อะไรที่เกินความต้องการคือยาพิษ อาจเป็นอำนาจ ความเกียจคร้าน อาหาร อัตตา ความทะเยอทะยาน ความไร้สาระ ความกลัว ความโกรธ หรืออะไรก็ตาม
#เสียงฟ้อนรำนั้นน่าปวดหูเพราะปู่นั่นแก่แล้ว อย่าให้ความเชื่อ #งมงายผูกจิตปัจจุบันของคุณไว้ให้ #กลายมาเกิดเป็นพญานาคอีกเลย นาคาศรีสุทโธ โพธิสัตว์ และ มหานาคีศรีปทุมมา #โปรดปรานสิ่งใดรู้ไว้ #จะเจริญ นาคาศรีสุทโธ และ นาคีศรีปทุมมาเป็นพญานาคราชผู้เป็นใหญ่ในประเทศไทยเป็นพญานาคราชขององค์อินทราธิราชเจ้า“มีพรหมประกายโลก”หรือวังนาคินทร์คำชะโนดอำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานีเป็นเวียงวังที่ประทับ #องค์นาคาธิบดีศรีสุทโธมีวรกายสีเขียวมรกต เศียรสีทองมีเมตตาสูงต่อผู้กราบไหว้บูชา #หากอธิษฐานจิตขอในสิ่งที่ไม่เบียดเบียนผู้อื่นจะสัมฤทธิ์ผล
#13 เหตุผลที่ย่ำอยู่ที่เก่า #เหตุผลที่ไม่สามารถก้าวหน้าทางด้านการฝึกจิตหรือปฎิบัติธรรม แม้แต่การเจอเทวดาประจำตัวหรือญาณบารมีของตนเอง เพราะมนุษย์เป็นรูปแบบวิญญาณที่เชื่อถือไม่ได้เว้นเสียแต่จะผ่านการฝึกฝน เพราะมนุษย์ไม่มีการศึกษาจากผู้รู้หรือครูบาอาจารย์เป็นตัวเป็นตน เพราะมนุษย์ปรุงแต่งกิเลสเพิ่มพูนมากกว่าที่จะเอาขยะออกจากทางจิตใจ เพราะมนุษย์เป็นผู้ศึกษาจากความกลัวจากโลกภายนอกเพื่อเอามาปิดบังปมที่ซ่อนอยู่ภายในใจของตัวเอง เพราะมนุษย์เป็นรูปแบบดวงวิญญาณที่มีความอดทนต่ำ เพราะมนุษย์เป็นสัตว์สังคมและมีสมองอันประเสริฐที่พร้อมไหลไปตามกันตามธรรมชาติของจิตที่ไหลลงสู่ที่ต่ำ เพราะมนุษย์เป็นสัตว์ไตรภูมิชนิดกลางที่สามารถกลับกรอกหรอกลิ้นได้มากกว่าภพภูมิอื่นอื่น เพราะมนุษย์เป็นสัตว์ชนิดเดียวที่ไม่มีสัจจะต่อตัวเองแม้กระทั่งจะรับปากกับสิ่งใดไว้ เพราะมนุษย์เป็นสัตว์ชนิดเดียวที่จะโกรธก็ได้เกลียดก็ได้แตกต่างจากภพภูมิอื่น มนุษย์เป็นสัตว์ชนิดเดียวที่มีอารมณ์หลากหลาย สิ่งสำคัญนี้ควรจะศึกษาพลังจิตให้กับตัวเองให้รู้เท่าทันอารมณ์ เพราะมนุษย์เป็นสัตว์ชนิดเดียวที่มีสมองและโครงสร้างพร้อมต่อการพัฒนาและฝึกฝนสิ่งนี้จึงเป็นสิ่งที่สร้างดวงวิญญาณหนึ่งดวงให้ประสพความสำเร็จและในขณะตรงกันข้ามก็ทำลายดวงวิญญาณอีกหนึ่งดวงให้ล้มเหลวและผิดหวังขึ้นอยู่กับการเลือกใช้ชีวิตของดวงวิญญาณนั้นนั้นเองในระหว่างการดำรงอยู่ในรทางๆนี้ อ่านว่ามนุษย์ผู้พัฒนาดวงวิญญาณอันประเสริฐแล้วเปรียบเหมือนบัวเหล่าที่หนึ่งและสอง หย่อมใช้ชีวิตไม่ประมาท และฝึกฝนหาส่วนประกอบ ชิ้นส่วนของดวงวิญญาณตนเองเพื่อการพัฒนาสูงสุดของบรมวิญญาณ มนุษย์เป็นสัตว์แปลกประหลาดชนิดเดียวที่มี EGO(อัตตาความกลัวสูง) เอาไว้ใช้ปกป้องตัวเองที่ภาษามนุษย์เรียกกันว่าศักดิ์ศรีมากกว่าที่จะยอมรับความกลัวในตัวเองและพัฒนาเป็นสุดยอดซุปเปอร์อีโก้ต่อไป  #?????????วิทยฐานะ #อัครบุคคลแห่งชาติ(พรหมนาคา) ประจำปี 2564สาขา ผู้ส่งเสริมเผยแผ่ศาสนาดีเด่น #ทูตวัฒนธรรม(ต้นแบบสังคมบุคคลของชาติ)ประจำปี 2564โครงการอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยสืบสานสู่ประชาคมอาเซียนสาขา ด้าน ส่งเสริมศาสนาดีเด่น
#การเรียนรู้วิธีดึงตัวเองออกจากวิถีชีวิตที่วุ่นวายและอยู่กับปัจจุบันเป็นสิ่งสำคัญมาก มันเกี่ยวกับการมีทัศนคติเชิงบวกและมีสามส่วนด้วยกัน คิดบวกอารมณ์เชิงบวกพฤติกรรมเชิงบวก หากคุณมุ่งความสนใจไปที่ด้านลบ#ในสามด้านใดด้านหนึ่งนั่นคือสิ่งที่คุณจะต้องสนใจโดยธรรมชาติ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะมีชีวิตอยู่ในช่วงเวลานั้น แต่ให้นึกถึงแง่มุมที่ดีของช่วงเวลานั้นด้วย #จำไว้ว่าคุณมักจะไปทุกที่ที่มีความคิดของคุณดังนั้น หากคุณจดจ่ออยู่กับด้านบวกของชีวิตคุณก็จะไปที่นั่นเช่นกัน ที่ที่คุณอยู่ สิ่งที่คุณทำ นั่นคือภายในของคุณ
ไม่ว่าเราจะพบเจอสิ่งใด จิตใจเป็นสิ่งสำคัญ #ให้ตรงต่อความคิด#ให้ตรงต่อจิต#ให้ตรงต่อใจ ไม่ว่าจะเกิดสิ่งใดให้คุณมีปัญญาแล้วเทวดาจะคุ้มครอง ด้วยรัก #MAEKHUNOY#เทวดาประจำตัว ไม่ว่าเราจะพบเจอสิ่งใด จิตใจเป็นสิ่งสำคัญ #ให้ตรงต่อความคิด#ให้ตรงต่อจิต#ให้ตรงต่อใจ ไม่ว่าจะเกิดสิ่งใดให้คุณมีปัญญาแล้วเทวดาจะคุ้มครอง ด้วยรัก #MAEKHUNOY#เทวดาประจำตัว ชมรมสายใยไทยแทนคุณแผ่นดิน รางวัล บุคคลต้นแบบแห่งปี 2564สาขา นักพัฒนาวัฒนธรรมดีเด่น
ประติศรณะ 4″ ได้แก่ 1) พึ่งธรรม ไม่พึ่งบุคคล2) พึ่งความหมาย ไม่พึ่งถ้อยคำ(พึ่งอรรถ ไม่พึ่งพยัญชนะ)3) พึ่งญาณรู้แจ้ง ไม่พึ่งสำนึกรู้อันแบ่งแยก(พึ่งญาณ ไม่พึ่งวิญญาณ)4) พึ่งพระสูตรที่มีเนื้อหาตรงตัว ไม่พึ่งพระสูตรที่มีนัยต้องตีความ #พึ่งญาณรู้แจ้ง ไม่พึ่งสำนึกรู้อันแบ่งแยก” พึ่งญาณ ไม่พึ่งวิญญาณคือความรู้อันเกิดจากการภาวนาและมองตรงเข้าไปในสิ่งนั้นๆ ด้วยจิตที่สงบและเห็นตามเป็นจริง เรียกว่า “ญาณ” จึงจะเป็นความรู้ที่สามารถพึ่งพิงเอาได้ในการมองเห็นความจริง แต่ความรู้ตามสามัญสำนึกที่เจือปนด้วยความไม่รู้ (อวิชชา) และการแบ่งแยกด้วยความหลงซึ่งทำให้มุมมองนั้นถูกเบี่ยงเบน เรียกว่า “วิญญาณ” ไม่อาจใช้เพื่อตัดสินความจริงได้เลย ผู้พบเจอเทวดาประจำตัวทุกท่านโดยเฉพาะนักเรียนประจำ ต้องมีการสอบญาณจากครูผู้สอน เพื่อประเมินผลความก้าวหน้าบางคนต้องใช้เวลานับปีจึงได้คำตอบว่า#มุสา สิ่งเหล่านี้ปรากฏมาจากจิตใต้สำนึกของผู้ฝึกฝนและครูผู้สอนพยายามชี้ให้เห็นในจิตสำนึกปัจจุบันและใช้เวลาในการปรับปรุงตนหากไม่มีโอกาสปรับปรุงตนและไม่รู้ตนดวงวิญญาณดวงนี้ก็จะอยู่ในพันธสัญญาดวงเดิมเป็นเหตุผลถึงความไม่ก้าวหน้าในการฝึกดวงวิญญาณทุกภพชาติทำให้สูญเปล่ากับเส้นทางการฝึกฝนและการเกิด #เทวดาประจำตัว
สติ 3 ระดับ > (#คุณมีสติระดับไหน)สติมีด้วยกัน 3 ระดับ1. #สติระดับควบคุมความคิดสติระดับนี้เป็นสติขั้นพื้นฐานที่มนุษย์ต้องใช้เพื่อดำรงชีวิตประจำวัน เป็นสติที่มีอยู่แล้วในสัตว์โลกตั้งแต่มนุษย์ขึ้นไป เป็นสติที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงาน ความสัมพันธ์ และการแสดงออกให้เหมาะสมกับกาลเทศะ เช่น นึกว่า “ขณะนี้เรากำลังทำงานอยู่ ก็ต้องตั้งใจทำงาน” หรือนึกว่า “เราไม่ควรไปโกรธเขาเลย ให้อภัยเขาจะดีกว่า จะได้ไม่มีเรื่องติดใจต่อกัน” การฉุกคิดในลักษณะนี้ ล้วนเกิดจากการใช้สติในการควบคุมความคิดทั้งสิ้น》สติระดับที่หนึ่งเป็นสติที่ทำให้เรากลายเป็นผู้มองโลกในแง่ดี ถ้าใช้สติระดับที่หนึ่งบ่อยๆ ชีวิตในโลกภายนอกก็จะพัฒนาขึ้นเป็นลำดับ2. #สติระดับเห็นความคิดสติระดับนี้เป็นสติที่พระพุทธเจ้าทรงคิดขึ้นมาเป็นคนแรก เป็นการกำหนดสมาธิ วางใจให้เป็นกลาง แล้วจึงใช้สติดึงจิตให้หลุดจากความคิดมาเป็นผู้สังเกต การฝึกสติเช่นนี้บ่อยๆ จะทำให้กลายเป็นผู้เท่าทันความคิด สามารถเห็นการเกิดขึ้นและดับไปของความคิด ทำให้อยู่เหนืออารมณ์ของตนเองได้ ความทุกข์ต่างๆ จะน้อยลง ความสุขจะเพิ่มขึ้น อัตตาตัวตนจะทุเลาเบา ถ้าฝึกสติในระดับนี้เป็นประจำ สติในระดับแรกก็จะเกิดง่ายขึ้น 》สติระดับที่สองนี้ ไม่สามารถเกิดขึ้นเองได้ จำเป็นต้องผ่านกระบวนการฝึกจิตอย่างเป็นรูปธรรม ได้แก่การฝึกวิปัสสนากรรมฐานเป็นต้น3. #สติระดับเหนือความคิด (มหาสติมหาปัญญา)สติระดับที่สามนี้ เป็นสติที่ก่อให้เกิดปัญญาทะลุโลก เป็นสติที่เกิดขึ้นจากการฝึกฝนสติในระดับที่สองจนเกิดความชำนาญ สติระดับมหาสติมหาปัญญานี้ ไม่จำเป็นต้องใช้การฉุกคิด เพราะเป็นสติที่เกิดขึ้นต่อเนื่องยาวนานเหมือนสายน้ำไหล ไม่มีวันหยุด ไม่มีวันลืม ไม่มีวันเผลอ ไม่มีคำว่าขาดช่วงขาดตอน กล่าวคือเป็นสติที่มีความเร็ว จนสามารถเห็นว่าความคิดและความรู้สึกมีกระบวนการทำงานอย่างไร…