จับไปยังสูญญตา

คบเพื่อนแต่อย่าหวังผลประโยชน์ให้ตัวเอง มิตรภาพที่เห็นแก่ตัวเองเท่านั้นที่ทำลายความไว้วางใจ “จงมีมิตรภาพที่ยั่งยืนด้วยใจที่บริสุทธิ์” อย่าแสวงหาผลกำไรเกินกว่ามูลค่างานของเรา การได้มาซึ่งกำไรปลอมทำให้เราเป็นคนโง่งม คนโบราณเคยกล่าวไว้ว่า “จงมั่งคั่งในความซื่อสัตย์”
#หัวใจช่วยและจิตสำนึกที่มีหัวใจเป็นศูนย์กลาง (เริ่มต้นเข้าหาเทวดาประจำตัว)ย้ายสติวิญญาณเข้าสติประดับ5 (มิติที่5) ดังที่ท่านทราบเราอยู่ท่ามกลางการปฏิวัติปรับปรุงเปลี่ยนแปลงในจิตสำนึกซึ่งส่งผลกระทบต่อทุกคน กฎ 80-20 ระบุว่า 80% ของการเปลี่ยนแปลงใด ๆ มักเกิดจากคน 20%20% ประกอบด้วยนักคิดชั้นนำ ผู้มีปัญญาผู้นำเทรนด์ที่มีสติสัมปชัญญะ #ในเรื่องจิตวิญญาณผู้คนระดับแนวหน้าบางครั้งเรียกว่าช่างแสงหรือ#วิญญาณเก่าซึ่งบ่งบอกว่าพวกเขาได้เรียนรู้มากขึ้นจากประสบการณ์ของพวกเขาผ่านหลาย ๆ ชาติ การเรียนรู้ขั้นสูงนี้ถูกเก็บไว้เป็นภูมิปัญญาในจิตวิญญาณของพวกเขาและพวกเขาจะได้รับประโยชน์จากมันอย่างมีสติผ่านคำแนะนำภายในที่เข้าใจง่าย คำว่า ‘lightworker’มีความหมายเหมือนกันกับ‘#ผู้แสวงหาจิตวิญญาณ‘ รูปแบบจิตสำนึกของความหนาแน่นที่ต่ำกว่าและมิติสี่ ซึ่งเป็นขอบเขตของจิตสำนึกที่มีหัวใจเป็นศูนย์กลางโปรดทราบว่าในขณะที่ร่างกายของเราอยู่ในความหนาแน่นในมิติที่สามในขณะนี้จิตใจของเรามีอิสระที่จะทะยานผ่านความหนาแน่น ที่มิติที่สี่ที่มีหัวใจเป็นศูนย์กลาง และเข้าสู่จิตสำนึกของวิญญาณที่มีความหนาแน่นที่มิติห้า เมื่อบุคคลย้ายจากฟังก์ชันความหนาแน่นที่สามในการพัฒนาสติปัญญาพื้นฐานไปสู่ความหนาแน่นที่สี่ที่ต่ำกว่าโลกทัศน์ของพวกเขาจะขยายกว้างขึ้นและพวกเขาก็ตระหนักถึงความต้องการของชุมชนที่ใหญ่ขึ้น พวกเขาคำนึงถึงผลกระทบในระดับท้องถิ่นและระดับโลก #จากการกระทำของตนเองและการกระทำของผู้อื่นที่พวกเขาสนับสนุน ความกังวลด้านสิ่งแวดล้อมอาหารออร์แกนิก และความกังวลเรื่องการสร้างสันติภาพล้วนอยู่ภายใต้ความถี่ของจิตสำนึกนี้ #?????????วิทยฐานะ #อัครบุคคลแห่งชาติ(พรหมนาคา) ประจำปี 2564สาขา ผู้ส่งเสริมเผยแผ่ศาสนาดีเด่น #ทูตวัฒนธรรม(ต้นแบบสังคมบุคคลของชาติ)ประจำปี 2564โครงการอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยสืบสานสู่ประชาคมอาเซียนสาขา ด้าน ส่งเสริมศาสนาดีเด่น
#ในทางพลังงานมนุษย์ทุกคนมีพรสวรรค์ หรือ วาสนาเก่า กฏแห่ งศักยภาพ บริสุทธิ์ที่ซ่อนเร้นอยู่ภายใน(The Law Of Pure Potential) จริงๆมนุษย์เราทุกคนมีศักยภาพที่ซ่อนเร้นอยู่ ภายใน แต่ส่วนมากจะเกิดสภาวะตีบตันในระดับพลังงาน ไม่สามารถสำแดงพลังมหาศาลนั้นออกมาได้ เปรียบดุจ ดั่งยักษ์จินนี่ที่หลับไหลอยู่ในตะเกียงวิเศษ #รอคอยใคร บางคนไป “ปลุก” ให้มีสติปัญญาขึ้นมาจากตะเกียงนั่นแหละ เจตนารมณ์หรือ Intentionเจตนำจักรวาล หรือ ดำริจากจักรวาล(Divine Will) ถ้ าเร าป รับ ค ว าม ตั้งใจ (Willpower) ของเราให้เข้ากับดำริจากจักรวาลหรือ เจตนารมณ์ของจักรวาลได้แล้ว สิ่งที่เราต้องการจะ เกิดขึ้นอย่างง่ายดายมาก เพราะมันเป็นความต้องการ ของจักรวาลอยู่แล้ว เพียงแต่สำแดงออกมาผ่านทางเรา ซึ่งคือกายเนื้อในรูปของมนุษย์หรืออธิบายด้วยภาษาที่ เข้าใจง่ายก็คือ เป็นสิ่งที่ถูกกำหนดไว้แล้วและเป็นชะตา ลิขิต (Destiny) หมายความว่าเบื้องบนอาจจะมีแผนการ บางอย่าง(Soul Plan)ที่ตัวตนของเราไม่อาจรู้ล่วงหน้าได้ #แรงบันดาลใจและพลังสร้างสรรค์ที่ไหลทะลัก ออกมาแบบไม่มีเหตุผลตัวตนที่สูงกว่าเข้ามาทำหน้าที่ เมื่อใดก็ ตามที่คุณสำแดงตัวคุณเองออกมาผ่านทางพรสวรรค์ ของคุณ #มีความอ่อนไหวกับสิ่งรอบตัวอย่างรุนแรงมาก#การใช้วิธีการปกป้องจิตและปกป้องทางพลังงาน จึงเป็นสิ่งสำคัญที่คุณต้องทำ โดยในตอนแรกเลยนั้นคุณก็ ต้องมีสติรับรู้ให้ได้ก่อนว่าคุณไปรับพลังงานนั้นมาจาก ไหนการคัดเลือกสิ่งแวดล้อมรอบตัวที่จะอยู่อาศัยจะ…
มนุษย์ อมนุษย์ เทวดา หรือดวงจิตใดๆและสัตว์ทั้งหลาย ประกอบด้วย #วิญญาณเรียนตัวเอง ก็ต้องเรียน จิต+วิญญาณ= #ตัวสร้างเงื่อนสร้างปมคุยกันก็ต้องคุยเรื่องที่มันถูกจุดอย่านำเรื่อง จิต+วิญญาณ ไปหาช่องทางรวยเราขยันไหมล่ะ ?มีปัญญาหาเงินไหมละ?พูดมากกว่าทำไหมล่ะ?อาศัยจักรวาลเสกรวยอย่างเดียวไหมล่ะ?ประการสำคัญ #กลัว มากไปหรือเปล่าล่ะ?แรงบันดาลใจ กำลังใจ #มีพอไหมล่ะ?คบกับคนแบบไหนล่ะ?แต่ละวันคุยเรื่องอะไรกันบ้างล่ะ? ฝึกตัวเองให้คล่องก่อนจึงจะอาศัย (จิต) ม้าเร็วขี่ได้ถ้าเรียนตัวเอง #ยังไม่รอดอย่าเพิ่งไปรู้อะไรมากมันจะ งงเงินทอง ก็บอกเป็นของนอกกายใครที่เก่งก็หาได้ ไม่มีก็ยืมได้#แต่เรื่องจิตใจให้ยืมกันไม่ได้บอกได้อย่างเดียวเอาไม่เอา ขึ้น อยู่ที่เราเอง
บางคนคิดว่าไม่มีอะไรต้องเร่งรีบในการพบพระผู้มีจิตวิญญาณและในอนาคตจะมีเวลามากพอที่จะปฏิบัติธรรมเสมอ ด้วยทัศนคตินี้คุณจะละทิ้งการฝึกจิตวิญญาณและความยุ่งเหยิงในการแสวงหาจิตวิญญาณของคุณ
?️? #นี่คือสัญญาณบางอย่างที่บ่งบอกว่าคุณอาจเป็นคนลึกลับ 1) #การเชื่อมต่อส่วนบุคคลมากกว่าข้อความและหลักคำสอนนักเวทย์ต้องการเชื่อมต่อกับจิตวิญญาณ เป็นการส่วนตัว แทนที่จะพึ่งพาประสบการณ์ทางจิตวิญญาณของคนอื่น พวกเขาชอบที่จะได้ยินเกี่ยวกับประสบการณ์ของผู้อื่น แต่ไม่ได้ผูกติดอยู่กับพวกเขา 2) #ตั้งคำถามเสมอ โดยธรรมชาติแล้ว ผู้วิเศษคือพวกนอกรีต พวกเขาถามคำถามที่บางคนคิดว่าไม่ควรถาม พวกเขาสงสัยเกี่ยวกับธรรมชาติของมนุษย์และธรรมชาติของการดำรงอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบความเชื่อทางศาสนา ไม่ยึดติดกับกระบวนทัศน์แบบเก่า 3) #อาศัยสัญชาตญาณ มีความสามารถในการพึ่งพาความเข้าใจอย่างถ่องแท้และการรับรู้โดยสัญชาตญาณ สิ่งเหล่านี้จำเป็นสำหรับผู้แสวงหาทางจิตวิญญาณ 4) #มองเห็นความจริงภายใน วัดความสำเร็จบนเส้นทางจิตวิญญาณตามการนำทางภายในของตนเอง มากกว่ารูปแบบและพิธีกรรมภายนอกบางอย่าง จุดประสงค์เดียวของพิธีกรรมคือการกระตุ้นให้เกิดความเข้าใจบางอย่างภายใน 5) #มองขึ้นไปบนดวงดาวด้วยความประหลาดใจ เวลามองขึ้นไปบนฟ้า ทำให้คุณหลุดพ้นจากความเป็นตัวเองหรือไม่? แม้ว่าคุณจะไม่ได้คิดถึงความเวิ้งว้างของจักรวาล แต่สิ่งนี้ก็ยังเป็นสัญญาณของการมองโลกที่ลึกลับ ซึ่งหมายความว่าคุณกำลังเชื่อมต่อกับความจริงที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นในจักรวาล 6) #รู้สึกเห็นอกเห็นใจกันมาก บ่อยครั้งมากเกินไป มีแนวโน้มที่จะอยู่เหนืออัตตา ดังนั้นขอบเขตระหว่างตนเองกับผู้อื่น #จึงไม่ถือตน 7) #การเชื่อมต่อกับธรรมชาติ ความรู้สึกผ่อนคลายเมื่อคุณอยู่ห่างจากอารยธรรมเป็นเรื่องปกติสำหรับผู้ลึกลับ ไม่เพียงเพราะความโดดเดี่ยว แต่ยังเพราะความมหัศจรรย์ของโลกธรรมชาติปรากฏขึ้นต่อหน้าเราเมื่อเราไม่ถูกรบกวนจากเมือง 8. #การอุทิศตนเพื่อความจริง รักในข้อเท็จจริงและความรู้ ตรงข้ามกับความคิดเห็นและการคาดเดา ผู้แสวงหาความจริงที่แท้จริงนั้นหายาก