อยากให้อะไรดีๆ#สะสมบารมีกันบ้างหรือยัง

อยากให้อะไรดีๆ#สะสมบารมีกันบ้างหรือยัง

#อยากให้อะไรดีๆ#สะสมบารมีกันบ้างหรือยัง#บารมีเต็ม แปลว่า ทำจนถึงที่สุดของกำลังใจแล้ว บารมีก็คือกำลังใจ มีอยู่ ๓ ระดับ ๙ ขั้น๑. #สามัญบารมี กำลังใจขั้นต้น ประกอบไปด้วย หยาบ กลาง ละเอียด๒. #อุปบารมี กำลังใจขั้นกลาง ประกอบไปด้วย หยาบ กลาง ละเอียด๓. #ปรมัตถบารมี กำลังใจขั้นสูงสุด ประกอบไปด้วย หยาบ กลาง #ละเอียด เหมือนกัน#ถ้าหากว่าถึงปรมัตถบารมีขั้นละเอียดก็แปลว่ากำลังใจเต็ม พร้อมที่จะเข้าพระนิพพานได้ #คราวนี้จะวัดจากตรงไหนได้สามัญบารมี ให้ทานได้ บอกให้รักษาศีลก็จะไม่ไหว อุปบารมีให้ทานได้ รักษาศีลได้ บอกให้ภาวนาไม่ไหว #ถ้าหากว่ากำลังใจพร้อมทั้ง ทาน ศีล ภาวนา ตั้งมั่นว่าจะทำเพื่อพระนิพพาน อันนี้ถือเป็นปรมัตถบารมีเต็มแล้ว พร้อมที่จะไปแล้ว ถาม : ถ้าในชาตินี้เราให้ทานประจำ รักษาศีลก็ได้ ภาวนาได้ ?ตอบ : #แสดงว่ากำลังใจของเราอยู่ระดับปรมัตถ์แล้ว เพียงแต่จะหยาบ จะกลาง จะละเอียดเท่านั้น ถ้าถึงปรมัตถบารมีนี้มีสิทธิ์ไปพระนิพพานได้แน่ อย่างแย่…

พลังจิต (Gsychergy)

พลังจิต (Gsychergy)

#พลังจิต (Gsychergy) หมายถึง คลื่นความถี่ของพลังงานความคิด (Pranic Energy) ซึ่งเป็นพลังงานไฟฟ้าบวก (Proton) ไฟฟ้าลบ (Electron) ที่เกิดจากต่อมไพเนียล (Pineal Gland) ที่สมองตอนบน เมื่อบุคคลคิดต่อมนี้ จะสร้างคลื่นความถี่ของความคิดขึ้น คลื่นนี้อาจจะมีมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับ ขบวนการ ทางความคิด (Thinking Process) นั้น คลื่นนี้จะลอยอยู่รอบๆ ตัวผู้คิด เมื่อคิดถึงใคร คลื่นนั้นจะพุ่งตรงไปยัง ต่อมสร้างความคิดของผู้รับนั้น ถ้าผู้รับรับคลื่นความคิดนั้นได้ จะเกิดความคิดเช่นนั้นทันที เรียกว่า เกิดการรับรู้ความคิดของผู้อื่นได้#บุคคลที่มีพลังจิตสูงบุคคลที่มี พลังจิต สูงคือ บุคคลที่มีสมาธิดี เช่น มีสมาธิอยู่ในขั้นกลางที่เรียกว่า อุปจารสมาธิ และสมาธิขั้นสูงที่เรียกว่า อัปปนาสมาธิ#การทำงานของ พลังจิตจิตจะทำงานได้ จิตต้องมีเครื่องมือคือ ร่างกายที่เป็นอยู่ของจิต จิตจึงแสดงผลออกมาให้เห็นได้ ส่วนของมันสมอง มีหน้าที่รับคำสั่ง ของจิตคือ ต่อมใพเนียล (Pinial Gland) ซึ่งเป็นต่อมเล็กๆสีแดงอมเทา รูปกรวย เป็นส่วนประกอบของปลายประสาท ต่อมนี้ อยู่ใน…

อย่าดูถูกคนอื่นเมื่อเห็นคนอื่นละเมิดศีล

อย่าดูถูกคนอื่นเมื่อเห็นคนอื่นละเมิดศีล

#อย่าดูถูกคนอื่นเมื่อเห็นคนอื่นละเมิดศีล อย่าดูหมิ่นติเตียน อย่าโอ้อวดเย่อหยิ่งและอย่าอ้างว่าฉันเป็นผู้ถือศีลหรือผู้ปฏิบัติธรรม เป็นเรื่องไม่ถูกต้องที่จะหวงการรักษาศีลให้บริสุทธิ์ไว้ที่ตัวเองคนเดียว จงรักษาศีลแต่ไม่ทำลายผู้อื่น เมื่อเห็นคนอื่นผิดศีลแล้วเราอวดตัวเอง นี่เป็นความผิด ผู้ที่มีอาการกำเริบควรคิดอย่างนี้อย่าดูถูกคนเขาผิดศีล#อาจเป็นพระโพธิสัตว์แสดงเป็นอุทาหรณ์เตือนใจเราและในอนาคตข้างหน้าอาจได้เป็นพระพุทธเจ้า ดังนั้นจงเคารพเขา #ให้เขากลับใจให้เขาชำระมลทินอีกครั้ง

ธรรมชาติของบรมวิญญาณ#และบรมวิญญาณของธรรมชาติ

ธรรมชาติของบรมวิญญาณ#และบรมวิญญาณของธรรมชาติ

ธรรมชาติของบรมวิญญาณ#และบรมวิญญาณของธรรมชาติ จงฟังว่าเจ้าจะหยั่งรู้ เราได้อย่างไรเมื่อจิตเอิบอาบอยู่ในเรามีเราเป็นที่พึ่งฟังไว้เถิดว่าเจ้าจะหยั่งรู้เราได้บริบูรณ์อย่างไม่ต้องสงสัยอยากรู้เราด้วยคุณลักษณะและอำนาจทั้งหมดของเราได้อย่างไรเราจะบอกเจ้าให้หมดสิ้นทางปัญญาตามทฤษฎีและปัญญาญาณที่อาจ รู้ได้ด้วยสหัชญาณหยั่งรู้ เมื่อเจ้าเข้าถึงปัญญานี้แล้วไม่มีสิ่งใดในโลกที่เจ้าจะไม่รู้ในหมู่ผู้คนนับล้านอาจมีเพียงคนเดียวที่ขวนขวายไปสู่จิตวิญญาณ แต่ในบรรดาผู้แสวงหาแท้จริงที่พยายามอย่างยิ่งยวดเพื่อถึงเราบางทีอาจมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่เห็นเราตามที่เราเป็น เพราะบรมวิญญาณอยู่ในธาตุดินน้ำลมและไฟเมื่อเจ้าเข้าไม่ถึงเจ้าก็ไม่มีทางพบ #บรมวิญญาณหลังจากเวียนเกิดเวียนตายมาหลายภพชาติผู้มีปัญญาย่อมเข้าถึงเราและหยั่งรู้ว่าพระองค์ทรงสถิตอยู่ทั่ว

สิ่งที่ผู้รู้พระเวทเรียกว่าความไม่เสื่อมสลาย

สิ่งที่ผู้รู้พระเวทเรียกว่าความไม่เสื่อมสลาย

สิ่งที่ผู้รู้พระเวทเรียกว่าความไม่เสื่อมสลายที่ผู้เลิกละผู้พ้นแล้วจากปัญหาและความคิดมั่นหันมาฝึกฝนเราจะบอกเจ้าอย่างคร่าวๆถึงวิธีที่จะไปถึงสิ่งนั้น  ผู้ปิดทวารทั้งเก้าในกายกักจิตไว้ที่จักระหัวใจตั้งพลังชีวิตปราณไว้ในสมองใหญ่ตั้งจิตมั่นในโยคะ แน่วแน่อยู่ในในพระวัจนะศักดิ์สิทธิ์ แห่งพรหม ระลึกถึงแต่เรา(บรมวิญญาณ) เมื่อเขาละร่างนี้ ย่อมไปถึงเป้าหมายอันเลิศล้ำนั้น ผู้มีจิตแน่วแน่ ระลึกถึงเราต่อเนื่องทุกวัน จิตของท่านไม่หันเหไปจากเรา(คือบรมวิญญาณ) ท่านจะเข้าถึงเราได้โดยง่าย ผู้ภักดีจิตใจหนักแน่น เมื่อบรรลุถึงเรา (บรมวิญญาณ) ย่อมเข้าถึงความสำเร็จเลิศล้ำ จะไม่กลับ มาเกิดใหม่ได้แดนทุกข์ไร้ความจีรัง ผู้ที่ยังไม่พ้นจากโลก จะกลับจากแดนพรหม การรวมเป็นหนึ่งกับพระเจ้าในสมาธิ มาเกิดใหม่ (บนโลกนี้) แต่เมื่อเข้าถึงเราบรมวิญญาณอันประเสริฐท่านจะไม่เกิดใหม่อีกเลย

นั่งสมาธิ 10 นาทีที่ถูกต้อง

นั่งสมาธิ 10 นาทีที่ถูกต้อง

การเปิดกายทิพย์ เป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยทำให้เรา #เข้าใจต่อ การฝึกฝนของความก้าวหน้าของดวงวิญญาณ  นั่งสมาธิ 10 นาทีที่ถูกต้องช่วยทำให้ชีวิตท่านเปลี่ยนแปลง ในแต่ละวันนอกจากเราจะฝึกสงบจิตคลื่นสมองยังเป็นสิ่งสำคัญ #บุคคลหนึ่งคนจะถูกพัฒนา IQ (Intelligence Quotient)ความฉลาดทางสติปัญญา เป็นความสามารถในการคิด วิเคราะห์ การคำนวณ และการใช้เหตุผล EQ(Emotional Quotient) ความฉลาดทางอารมณ์ เป็นความสามารถในการรับรู้ เข้าใจอารมณ์ตนเองและผู้อื่น สามารถควบคุม อารมณ์และยับยั้งชั่งใจตนเองและแสดงออกอย่างเหมาะสม รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา รู้จักรอคอย รู้จักกฎเกณฑ์ระเบียบวินัย มีจิตใจร่าเริงแจ่มใส และ มองโลกในแง่ดี การเจริญพรหมวิหาร 4 (เมตตา กรุณา มุทิตา และอุเบกขา) จะช่วยเสริม EQ ได้ CQ (Creativity Quotient) ความฉลาดในการริเริ่มสร้างสรรค์ มีความคิด จินตนาการหรือแนวคิดใหม่ๆ ในรูปแบบต่างๆ เช่น การ เล่น งานศิลปะ และการประดิษฐ์สิ่งของ นักวิจัยพบว่าการเล่นและทำกิจกรรมที่ส่งเสริมจินตนาการเช่น การเล่นศิลปะ การหยิบจับของใกล้ตัวมาเป็น ของเล่น การเล่านิทาน เป็นต้น…

Empathy ( #การหยั่งรู้วาระจิต)

Empathy ( #การหยั่งรู้วาระจิต)

Empathy ( #การหยั่งรู้วาระจิต) #แตกต่างจาก Sympathy (ความสงสาร)Sympathy จะเป็นความรู้สึกของความเศร้าโศกหรือเวทนาไปกับผู้ที่ประสบกับความทุกข์ยากลำบากในบางเรื่องราว…..แต่ Empathy คือการเสียสละ และแสดงออกด้วยการกระทำที่เปี่ยมด้วยความเมตตา ที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นซึ่งในขณะที่ Empathy จะดูเหมือนเป็นเรื่องที่เป็นไปด้านบวก และมีจริยธรรมอันสูงส่ง ทั้งยังมีหลักการในการปฏิบัติที่ดีก็ตามที แต่ก็มีบางคนเชื่อว่า การหยั่งรู้วาระจิตผู้อื่นมากเกินไป ก็อาจเป็นอันตรายต่อความผาสุกของตัว Empath (ผู้หยั่งรู้วาระจิต) เอง และอันตรายนั้นอาจลามไปถึงระดับโลกอีกด้วยเพราะพฤติกรรมของการหยั่งรู้วาระจิต (Empathy) ที่มากเกินไปนั้น จะไปรบกวนต่อการตัดสินใจที่ควรจะเป็นไปตามเหตุผล ซึ่งสืบเนื่องจากการที่พวก Empath ชอบที่จะใช้หัวใจนำทางมากกว่าสมอง ซึ่งอาจทำให้พวกเขาสูญเสียภาพที่กว้างขึ้นของผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในระยะยาวก็เป็นได้ตามหลักจิตวิทยา… Empathy (การหยั่งรู้วาระจิต) แบ่งออกเป็น 3 ลักษณะ…คือ1. ‘การหยั่งรู้ที่มีความเข้าใจในด้านของปัญญา และองค์ความรู้ ‘ซึ่งมีขีดความสามารถในการเข้าใจว่าผู้คนรู้สึกอย่างไร และกำลังคิดอะไรอยู่ และการหยั่งรู้ในลักษณะนี้ จะทำให้เกิดการสื่อสารได้ดียิ่งขึ้น และช่วยให้เกิดการถ่ายทอดข้อมูลที่สามารถเข้าถึงผู้อื่นได้อย่างตรงประเด็นที่สุด2. ‘การหยังรู้วาระจิตในด้านอารมณ์’ (หรือที่เรียกว่า รับอารมณ์ผู้อื่น) จะมีขีดความสามารถในการแบ่งปันความรู้สึกของบุคคลอื่น ซึ่งบางคนได้เปรียบเทียบไว้คล้ายประโยคที่ว่า…. “ความเจ็บปวดของคุณมันอยู่ในหัวใจของฉัน” …..ซึ่ง การหยั่งรู้ ฯ ในลักษณะนี้ จะทำให้เกิดการสร้างอารมณ์ร่วมในการเชื่อมโยงซึ่งกันและกัน3. ‘การหยั่งรู้ที่เป็นไปด้วยความเมตตา-กรุณา’ (หรือที่เรียกว่า เอื้ออาทร…

มีเมตตาต่อทุกสิ่ง

มีเมตตาต่อทุกสิ่ง

#มีเมตตาต่อทุกสิ่งคุณรู้หรือไม่ว่าพลังงานความเห็นอกเห็นใจนั้นแข็งแกร่งที่สุดในบรรดาพลังงานทั้งหมด? ใช่ แข็งแกร่งกว่าความรักด้วยซ้ำ ความรักเป็นเรื่องรอง พอโตก็กลายเป็นความสงสาร คุณสามารถแสดงความเห็นอกเห็นใจแทนการวิพากษ์วิจารณ์ได้ไหม? คุณเห็นอกเห็นใจเกี่ยวกับสิ่งที่คุณต้องอดทนได้ไหม? คุณสงสารคนที่ตัดขาดคุณได้ไหม? หรือคนที่โกงทางผ่านสายที่คุณรออย่างอดทน? คุณมีความเห็นอกเห็นใจผู้นำชุมชนคุณหรือไม่ทั้งหมดนั้นไม่ใช่แค่รายการโปรดของคุณ #ตัวกรองความเห็นอกเห็นใจของคุณแข็งแกร่งแค่ไหน?คุณจะอยู่กับคนที่ทำให้คุณโกรธ กังวล กลัว และเห็นพระเจ้าในพวกเขาหรือไม่? #ปรมาจารย์ที่เดินดินมีระดับสูงสุดของความเมตตาของสิ่งมีชีวิตทั้งหมด พวกเขามีความสามารถในการปรับพลังงานของผู้อื่นโดยอาศัยระดับความเห็นอกเห็นใจที่พวกเขาสามารถแผ่ออกไปสู่ผู้อื่นได้ นั่นคือเหตุผลที่พวกเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญและทำไมทุกคนถึงอยากอยู่กับพวกเขา คุณเคยเป็นพวกเขาและคุณจะเป็นอีกครั้ง #เริ่มด้วยความเมตตา ณ บัดนี้คุณรู้สึกว่าพระเจ้าผู้สร้างหลักของเรามีเมตตาในทุกสถานการณ์หรือไม่? คุณยังคงรู้สึกว่าจำเป็นต้องเชื่อว่าพระเจ้าจะต้องมีมนุษยธรรมและตัดสิน ลงโทษ หรือเอาผิดต่อความรุนแรงต่อผู้ที่ผิดศีลธรรมในการรับรู้ของคุณหรือไม่? พระเจ้าผู้เปี่ยมด้วยความรักล้วนเลือกคัดเลือกผู้ที่จะแสดงความเห็นอกเห็นใจหรือไม่? เมื่อคุณสามารถเริ่มประสานคำตอบของคำถามเหล่านี้ที่ประสานกับพลังงานในหมู่พวกเราได้ คุณจะเริ่มมองเห็นสิ่งต่าง ๆ (ทุกสิ่ง) ผ่านมุมมองอื่น #คุณจะเริ่มเห็นความสงสารในทุกสิ่งและระบบแห่งความรักที่เกินกว่าจะอธิบายเป็นคำพูดได้

#อุปสรรคใหญ่ของลูกศิษย์ใหม่#ของท่านอาจารย์คืออะไรครับ ?

#อุปสรรคใหญ่ของลูกศิษย์ใหม่#ของท่านอาจารย์คืออะไรครับ ?

#อุปสรรคใหญ่ของลูกศิษย์ใหม่#ของท่านอาจารย์คืออะไรครับ ?คำตอบหลวงปู่ชา : ทิฐิ ความเห็นและความนึกคิดเกี่ยวกับสิ่งทั้งปวง เกี่ยวกับตัวเขาเอง เกี่ยวกับการปฏิบัติภาวนา เกี่ยวกับคำสอนของพระพุทธเจ้า หลายๆ ท่านที่มาที่นี่ มีตำแหน่งการงานสูงในสังคมบางคนเป็นพ่อค้าที่มั่งคั่ง หรือได้ปริญญาต่างๆ ครูและข้าราชการ สมองของเขาเต็มไปด้วยความคิดเห็นต่อสิ่งต่างๆ เขาฉลาดเกินกว่าที่จะฟังผู้อื่น เปรียบเหมือนน้ำในถ้วย ถ้าถ้วยมีน้ำสกปรกอยู่เต็มถ้วยน้ำก็ใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้ เมื่อได้เทน้ำเก่านั้นทิ้งไปแล้วเท่านั้น ถ้วยนั้นก็จะใช้ประโยชน์ได้ ท่านต้องทำจิตให้ว่างจากทิฐิ แล้วท่านจึงจะได้เรียนรู้การปฏิบัติของเรานั้นอยู่เหนือความฉลาดหรือความโง่ #ถ้าท่านคิดว่า..ฉันเก่ง ฉันรวย ฉันเป็นคนใหญ่คนโตฉันเข้าใจพระพุทธศาสนาแจ่มแจ้งทั้งหมด เช่นนี้แล้ว ท่านจะไม่เห็นความจริงในเรื่องอนัตตา หรือความไม่ใช่ตัวตน ท่านจะมีแต่ตัวตน ตัวฉัน ของฉัน แต่พระพุทธศาสนา คือ การละตัวตน เป็นความว่าง เป็นความไม่มีทุกข์ เป็นนิพพาน

ดีอย่างไร

ดีอย่างไร

#ดีอย่างไรใจเบาบาง= พร้อมต่อการพิจารณาความจริงปัญญาผ่องใส=ฟังสิ่งใดง่ายขึ้นสติดี =คิดการคิดงานมีหลากหลายทางออกได้พบคนดี สิ่งดี ที่เหมาะกับ #บารมีตนเอง เมื่อเจริญจิต เจริญใจ เจริญปัญญาวิญญาณก็ง่ายต่อการสดับรับคำสอนเหมาะสมต่อบารมีแห่งการปลดปล่อยวิญญาณตนเอง สู่การหลุดพ้น ชีวิตที่เหลือจึงสมบูรณ์มีกำลังทรัพย์ต่อการสะสมบารมี และเกื้อกูลตนเองไม่ขาดแคลน ทำซ้ำๆทำบ่อยๆ ดี ดี ดี คว่ำตายหงายเป็น สุขสวัสดีมีชัย