ม่หวังผลตอบแทนจากการทำบุญ
ไม่หวังผลตอบแทนจากการทำบุญ การคาดหวังสิ่งตอบแทนนำไปสู่จิตใจที่มีเล่ห์เหลี่ยม คนโบราณเคยกล่าวไว้ว่า “จงโยนจิตวิญญาณจอมปลอมทิ้งไปเหมือนรองเท้าเก่า”
ไม่หวังผลตอบแทนจากการทำบุญ การคาดหวังสิ่งตอบแทนนำไปสู่จิตใจที่มีเล่ห์เหลี่ยม คนโบราณเคยกล่าวไว้ว่า “จงโยนจิตวิญญาณจอมปลอมทิ้งไปเหมือนรองเท้าเก่า”
น้ำตาเป็นของมีค่าควรให้ไหลออกมาด้วยความปิติไม่ใช่ความโศกเศร้า พระเจ้าหรือพระพุทธเจ้า#คือจิตสำนึก…ไม่ใช่ผู้สร้าง พระเจ้าเป็นแหล่งกำเนิดของการสร้างเองมัน (ไม่ใช่เขาหรือเธอหรือใคร)ไอทีไม่ได้เป็นอิสระจากคุณคือความสมบูรณ์ของทุกสิ่ง #ดังนั้นเมื่อคุณเรียกตัวเองว่าพระเจ้าไม่ได้หมายถึงตัวคุณเองคุณกำลังพูดถึงการแสดงออก #ของตัวตนของพระเจ้าที่อยู่ภายในตัวคุณ กริยา…พลังงาน…ไม่ใช่คำนาม เมื่อคุณคิดว่าพระเจ้าเป็นคำนาม คน สถานที่ หรือสิ่งของ #คุณจะแยกตัวเองออกจากพระเจ้าและกลายเป็นสิ่งที่จำกัดในทันที นั่นคือสิ่งที่แยกผู้เชื่อ (ศาสนา) ออกจากผู้รู้ (ฝ่ายวิญญาณ)
#ศูรังคมมนตร์ หากเจ้ายืนกรานที่จะพยายามควบคุมภูตผีและสั่งให้ผู้พิทักษ์ธรรมให้ทำตามความปรารถนา เจ้าก็จะเพิ่มกรรมไม่ดีของเจ้าเอง เจ้าจะนำความหายนะมาสู่ตัวเจ้าเอง ดังนั้น หลักเกณฑ์ประการแรกสำหรับผู้ที่ต้องการปฏิบัติธรรม คือ ถือศีลและเน้นการพัฒนาความประพฤติดี เจ้าต้องไม่ทะเลาะต่อตี ไม่โลภ ไม่แสวงหา ไม่เห็นแก่ตัว ไม่แสวงหาผลประโยชน์ของตนเอง หรือโกหก หากคุณธรรมในทางธรรมไม่เพียงพอ แต่เจ้าแสร้งทำเป็นเป็นนักปราชญ์ที่สามารถถ่ายทอดคำสอน หรือพยายามทำประหนึ่งว่าตนอยู่ในฐานะผู้นำของประเทศ พฤติกรรมของเจ้าก็จะไม่เป็นที่ยอมรับ ทุกวันนี้ ทุกคนสนใจที่จะดึงเอามนตร์วิเศษออกมาให้ได้มากที่สุด แต่พวกเขากลับไม่ใส่ใจในศีลธรรมอันดีของตนเอง และตามจริงแล้ว การสวดมนตร์ของพวกเขาจะไม่เป็นผล” “เพราะฉะนั้น ผู้ที่ศึกษาพระธรรมศูรังคมมนตร์ต้องมีความประพฤติเหมาะสม มีเจตนาของตนที่เหมาะสม จะต้องไม่มีความคิดเป็นมลทิน และต้องไม่ทำกรรมอันเป็นมลทิน พวกเขาควรเอาใจใส่ปลูกฝังความบริสุทธิ์ให้มาก หากในด้านหนึ่งพวกเขาปฏิบัติศูรังคมมนตร์ และในอีกทางหนึ่งพวกเขาไม่ปฏิบัติตามกฎ พวกเขาก็จะพบปัญหาอย่างหนัก ทุกคนควรใส่ใจกับประเด็นนี้อย่างใกล้ชิด หากเจตนาของเจ้าไม่เหมาะสมและความประพฤติของเจ้าไม่เหมาะสม พระวัชรครรภโพธิสัตว์ จะหมดความเคารพต่อเจ้าและจะไม่ปกป้องเจ้า” “พระพุทธเจ้าและพระโพธิสัตว์มีเมตตากรุณาไม่ทำร้ายสิ่งมีชีวิตหรือทำร้ายสิ่งมีชีวิตด้วยความโกรธ แต่บริวารของพวกท่าน ทั้งผู้รักษาธรรม เทวดา นาคมังกร ภูติผี และวิญญาณ จะโกรธเคือง วิญญาณชั่วร้ายและผีร้ายเหล่านั้น เมื่อเห็นเจ้าสวดมนต์ในขณะที่กระทำความผิด จะนำภัยพิบัติและอันตรายมาสู่เจ้า จะทำให้เจ้ารู้สึกอึดอัดมาก จะทำให้เจ้าเดือดร้อน หรือทำให้เจ้าต้องประสบกับความโชคร้ายหรือผลกรรมนานาต่อเนื่อง”
#ความศักดิ์สิทธิ์ของอักขระนาครีย์#และอักขระกูโบ๊ส “เทวดาพูดภาษาอะไร?”มาทำความรู้จัก ภาษา “กูโบ๊ส – กูต๊าบ”เทพยาดาท่านใช้สื่อสารกันภาษา “กูโบ๊ส – กูต๊าบ” #ภาษาของพรหมใช้ คือ กูโบ๊สส่วนภาษาของวิญญาณในภพสัมภเวสี และวิญญาณชั้นต่ำใช้ คือ กูต๊าบ ในการติดต่อและกระทำพิธีกรรมพวกพรหมชั้นสูงจะใช้ภาษา “กูโบ๊สขั้นสูง” เรียกว่า “ปุริสคาเบ๊ส” พรพรหมชั้นกลางใช้กูโบ๊สแบบ “รอเฟน”พวกพรหมชั้นต่ำและเทพชั้นสูงให้กูโบ๊สแบบ “มินกะเอน” ในการติดต่อสื่อสารและกระทำพิธีพวกวิญญาณเทพชั้นกลางและเทพเจ้าโดยทั่วไป ใช้ภาษา “เช็คราวาตี” ในการติดต่อและกระทำพิธีคัมภีร์ศาสนาพราหมณ์ยุคดึกดำบรรพ์ใช้อักขระกูโบ๊สจารึกและปราชญ์ทางนิรุกติศาสตร์ลงความเห็นว่า “ภาษากูโบ๊ส คือ ต้นกำเนิดของอักขระเทวนาครีย์” #ในประเทศไทย ยังมีผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในภาษากูโบ๊ส – กูต๊าบ นั่นคือ ดร.พระธรรมโมลี (ทองอยู่ ญาณวิสุทฺโธ) หลวงพ่อทองอยู่ไปศึกษาสันสกฤตระดับปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยมัทราส เมืองมัสราส รัฐทมิฬนาดู ประเทศอินเดียในปี พ.ศ. ๒๕๑๕ โดยทำวิทยานิพนธ์เรื่อง “ASHVAGHOSA’S WORK” (งานของท่านอัศวโฆษ) ท่านอัศวโฆษ นี่แหละคือเสาเอกของบวรพุทธศาสนานิกายมหายาน โดยลูกศิษย์ท่านนามว่า นาคารชุน นำมาปฏิบัติและเผยแพร่ จนกลายเป็นนิกายที่สำคัญไป ซึ่งยึดเอา อวตังสกสูตร เป็นแม่บทของนิกาย คามแตกฉานอย่างกว้างไกลและลุ่มลึกในภาษาสันสกฤตของหลวงพ่อเจ้าคุณ…
ผ่าน 1 ปีของการฝึกฝน#พึ่งเริ่มตั้งไข่คุณฝน ศิษย์ 1 ใน 3 ของนักเรียนที่ผ่านการฝึกฝน 1 ปี ด้าน กาย จิต จิตวิญญาณ#หนึ่งในผู้พบเจอเทวดาประจำตัวจริง ที่ได้รับโอกาสสดับคำสอนจากจิตสู่จิตถือเป็นบัณฑิตตัวอย่างอีก 1 ท่านที่ดำเนินตามคำสอนอย่างมีระเบียบและวินัยทำให้สามารถใช้ชีวิตของผู้ปฏิบัติสองมิติได้อย่างสมดุลย์จากผู้สงสัย กลายเป็นได้รู้จากตัวกู กลายเป็น ส่วนหนึ่งจากความกลัว เป็นความ เข้าใจจากความไม่เข้าใจ กลายเป็น วิชชาจากน้ำตา กลายเป็น หัวเราะ คนเราจะได้มีโอกาสได้พบเจอเทวดาประจำตัวเป็นสิ่งที่ไม่รู้ว่าในชีวิตนี้จะมีผู้ใดสอนเรื่องนี้อีกประการสำคัญชีวิตของคนเราเป็นสิ่งที่ละเอียดลึกซึ้งยากต่อการเข้าใจและสลับซับซ้อนต้องมีระดับสติปัญญาอย่างเข้าใจและแยบยลที่มนุษย์หนึ่งคนจะสามารถรังสรรค์ความสมดุลย์ต่อการใช้ชีวิตสองมิติแบบนี้ได้ #เราเป็นดวงวิญญาณ ที่ต้องขัดเกลาครูมีนักเรียนมากมายกว่า 300 ชีวิตที่ได้เจอเทวดาประจำตัวแต่ก็ช่างน่าเสียดายว่าพวกเขาทั้งหลายยังไม่เข้าใจความหมายของชีวิตและจิตวิญญาณโชคดีของชีวิต
ธรรมชาติของบรมวิญญาณ#และบรมวิญญาณของธรรมชาติ จงฟังว่าเจ้าจะหยั่งรู้ เราได้อย่างไรเมื่อจิตเอิบอาบอยู่ในเรามีเราเป็นที่พึ่งฟังไว้เถิดว่าเจ้าจะหยั่งรู้เราได้บริบูรณ์อย่างไม่ต้องสงสัยอยากรู้เราด้วยคุณลักษณะและอำนาจทั้งหมดของเราได้อย่างไรเราจะบอกเจ้าให้หมดสิ้นทางปัญญาตามทฤษฎีและปัญญาญาณที่อาจ รู้ได้ด้วยสหัชญาณหยั่งรู้ เมื่อเจ้าเข้าถึงปัญญานี้แล้วไม่มีสิ่งใดในโลกที่เจ้าจะไม่รู้ในหมู่ผู้คนนับล้านอาจมีเพียงคนเดียวที่ขวนขวายไปสู่จิตวิญญาณ แต่ในบรรดาผู้แสวงหาแท้จริงที่พยายามอย่างยิ่งยวดเพื่อถึงเราบางทีอาจมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่เห็นเราตามที่เราเป็น เพราะบรมวิญญาณอยู่ในธาตุดินน้ำลมและไฟเมื่อเจ้าเข้าไม่ถึงเจ้าก็ไม่มีทางพบ #บรมวิญญาณหลังจากเวียนเกิดเวียนตายมาหลายภพชาติผู้มีปัญญาย่อมเข้าถึงเราและหยั่งรู้ว่าพระองค์ทรงสถิตอยู่ทั่ว
#คนมีอำนาจเหนือกรรม อาจควบคุมกรรมของตนได้แต่ทั้งนี้ต้องไม่ลืมว่าจะต้อง#ควบคุมจิตเจตนาของตนได้ด้วย โดยตั้งมั่นแน่วแน่อยู่ในธรรม เช่นเมตตา สติ ปัญญา #สัจจาธิษฐาน เป็นต้น อันเป็นส่วนจิตและศีลอันหมายถึงตั้งเจตนา เว้นการที่ควรเว้น ทำการที่ควรทำในขอบเขตอันควร คนส่วนมากยังมีความเชื่อว่า#มีผู้ดลบันดาลให้เกิดสิ่งต่างๆ ขึ้นแต่ทางพระพุทธศาสนาได้ แสดงว่าคนมีกรรมเป็นของตน จะมีสุขหรือทุกข์เพราะกรรม ผู้คนเลยหันมากลัวกรรม #กรรมจึงคล้ายเป็นผู้เคราะห์ร้ายที่ถูกเข้าใจในทางร้ายอยู่เสมอ กรรมจึงกลายเป็นอดีตที่น่ากลัว พระพุทธศาสนาไม่ได้สอนให้คนกลัวกรรม ไม่ได้สอนให้ตกเป็นทาสของกรรมหรืออยู่ใต้อำนาจของกรรม #แต่สอนให้รู้จักกรรม ให้มีอำนาจเหนือกรรม #ให้ควบคุมกรรมของตนในปัจจุบัน