ปลาจากท้องนา
ปลาจากท้องนาที่ไม่รู้จักนำมาพูมฟักให้เติบโตพ่อครูมักนำปลาที่ติดดินแห้งๆหรือที่ชาวบ้านจับมาได้เอามาฟากให้ครูเลี้ยงครูจะเลี้ยงไว้น้ำท่วมเมื่อไหร่มันคงจะเติบใหญ่ต่อไปและออกจากรั้วประตูธรรมไปตามธรรมชาติของมัน
ปลาจากท้องนาที่ไม่รู้จักนำมาพูมฟักให้เติบโตพ่อครูมักนำปลาที่ติดดินแห้งๆหรือที่ชาวบ้านจับมาได้เอามาฟากให้ครูเลี้ยงครูจะเลี้ยงไว้น้ำท่วมเมื่อไหร่มันคงจะเติบใหญ่ต่อไปและออกจากรั้วประตูธรรมไปตามธรรมชาติของมัน
คนในทุกวันนี้ได้แต่แสวงหาเพื่อจะยัดใส่ตัวเองด้วยความรู้ความสามารถในการใช้เหตุผลทางอนุมานแสวงหาความรู้ทางพระคัมภีร์อยู่ทุกหนทุกแห่งและเรียกการทำอย่างนั้นว่าการปฎิบัติธรรมเขาเหล่านั้นไม่รู้ว่าความรู้และสติปัญญาชนิดนั้นยิ่งมีมากก็ยิ่งมีผลในทางตรงกันข้าม#คือเป็นการสุ่มกองสิ่งกีดขวางให้สูงยิ่งขึ้นไปอีกนั่นเอง การถ่ายทอดความว่างให้กันและกันนั้นไม่สามารถทำได้โดยท่องคำพูดการถ่ายทอดตามความหมายของฝ่ายวัตถุนั้นไม่สามารถใช้การได้กับธรรมะเมื่อเป็นดังนั้น#จิตเป็นสิ่งที่ถูกถ่ายทอดโดยจิตและจิตเล่านี้ไม่แตกต่างกันเลยการถ่ายทอดและการรับการถ่ายทอดทั้งสองอย่างนี้เป็นความเข้าใจอันเร้นลับที่เข้าใจได้ยากที่สุดจนถึงกับมีไม่กี่คนจริงๆที่สามารถรับเอาได้เมื่อสิ่งที่เรียกว่าความรู้และสติปัญญาเฉลียวฉลาดชนิดนั้นเกิดย่อยไม่ได้ขึ้นมามันก็กลายเป็นพิษขึ้นเพราะมันเป็นได้แต่เพียงของในเครือเดียวกันกับสังสารวัฏเท่านั้นในฝ่ายธรรมอันสูงสุดนั้นไม่มีของชนิดนี้เลยดังนั้นจึงมีคำกล่าวไว้ว่าในคลังแสงสรรพวุฒิแห่งราชาธิปัตย์ของข้าหามีดาบแห่งความเป็นเช่นนั้นใหม่#MAEKHUNOYวันนี้ที่ #สะเกิน
คุณต้องถ่อมตนรักษาความชอบส่วนตัวและความเกลียดชังในพื้นหลังหากคุณต้องการค้นพบความเป็นจริงของโลก (ความรู้ทั่วไปเบื้องต้นเกี่ยวกับจิตวิเคราะห์)ภาพลวงตานั้นได้รับความไว้วางใจจากเราเพราะมันช่วยให้เราเจ็บปวดและทำให้เราเพลิดเพลิน ดังนั้นเราต้องยอมรับพวกเขาโดยไม่มีการร้องเรียนเมื่อพวกเขาชนกับความจริงที่พวกเขาถูกทำลายความตั้งใจที่มนุษย์ควรมีความสุขไม่ได้อยู่ในแผนการสร้าง
“การถือตัวเป็นโมหะเป็นอวิชชา เป็นความหลง เป็นเหตุทำให้ทุกข์ใจ”#คติธรรม
Walk-in #กู้บารมี คือเมื่อวิญญาณของเราถูกแทนที่#หรือรวมเข้ากับจิตวิญญาณ#ของสิ่งมีชีวิตที่มีมิติสูงกว่า ปรากฏการณ์นี้อาจคล้าย กับประสบการณ์ใกล้ตายแต่แทนที่จะเป็นคนที่กลับมาพร้อมกับความทรงจำของสิ่งมีชีวิตที่สูงขึ้นจากอีกด้านหนึ่ง พวกเขานำสิ่งนี้กลับมาในร่างกายของพวกเขาอีกครั้ง อย่างแท้จริงเพื่อเผยแพร่ข้อความหรือบอกว่า #ตัวตนที่สูงกว่ามีจริง #นำกลับมาเพื่อต่อปัญญาวิญญาณให้สูงขึ้น #พูดตามหาเทวดาประจำตัว
#อาลัยสติดวงวิญญาณเก่า ชีวิตและความสุขที่จะช่วยให้จิตใจที่กว้างขวางเปิดและกําลังดําเนินชีวิตอย่างมีความสุข ควรเตือนตนเองบ่อยๆว่าถ้าคนคนหนึ่งคิดเสมอว่าเขาเป็นคนที่ดีมากกว่าคนอื่นๆ #เพราะเขาฉลาดมีอํานาจที่ดีมีความสามารถที่ดีมีอํานาจที่รวดเร็ว… นั่นคือ เหมือนคนนั่งอยู่บนที่สูงที่สุดของภูเขาสูง #อย่างไรก็ตามที่นั่นหนาวและรุนแรงมาก #ผู้คนจะรู้สึกโดดเดี่ยวและต้นไม้ไม่สามารถเติบโตที่นั่นได้เลย ในทางตรงกันข้ามกับคนที่มีชีวิตอยู่อย่างสงบสุขอ่อนน้อมถ่อมตนอยู่ในตําแหน่งที่ต่ำกว่าคนอื่น จะเพลิดเพลินกับชีวิตด้านล่างที่เต็มไปด้วยความสุข
#การเปิดญาณบารมี#และการเพิ่มและการรับพลังจิต บุคคลที่มีสมาธิดีจะมีคลื่นความถี่ และความรุนแรงของพลังงานความคิดสูง สามารถที่จะส่งพลังงานนั้น ไปยังบุคคลที่ตั้งเป้าหมาย ไว้ได้แน่ชัดทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ตัวผู้รับได้ตามความปราถนานั้น #เรียกว่าการเพิ่มและการรับพลังจิตการเพิ่มแต่ละครั้ง แต่ละคนไม่เหมือนกัน เพิ่มพลังจิต แต่ละครั้งนาน เท่าใด ผู้เพิ่มพลังจิตจะทราบได้ในสมาธิจิตนั้นหากผู้รับยังรับได้ ก็เพิ่มให้ต่อไปหากเห็นว่า พลังจิต #ที่ส่งไปนั้นหยุดลงก็หยุดเพิ่มพลังจิตในครั้งนั้น และต้องเพิ่มพลังจิตกี่ครั้งจึงจะได้ผลสิ่งนี้ไม่มีกำหนด แน่นอนขึ้นอยู่กับผู้รับ หากผู้รับสามารถรับพลังจิตได้มาก และเห็นว่าอวัยวะที่ผิดปกตินั้น เปลี่ยนเป็น ปกติเร็ว พลังจิตที่ส่งไปจะหยุดลง ควรหยุดเพิ่มพลังจิตให้ผู้รับพลังกลับไปทำสมาธิภาวนาด้วยตนเอง ผู้รับพลังจะสร้างพลังจิตที่ดีขึ้นมาได้ พลังจิตนั้นๆ จะบำบัดทุกข์ให้ได้ในที่สุด #การเพิ่มพลังจิตกระทำได้ 3 ทางคือ 1. เพิ่มที่อวัยวะนั้นโดยตรง2. เพิ่มที่จุดกำเนิดของพลังจิต คือที่ต่อมไพเนียล3. เพิ่มพลังจิตให้ครอบคลุมทั้งตัวผู้รับ จะเพิ่มให้ใครที่อวัยวะใดนั้นจะทราบและเห็นได้ในสมาธินั้นๆ #ผู้เพิ่มพลังจิตที่ดี ผู้เพิ่มพลังจิตที่ดีควรมีคุณสมบัติดังนี้คือเป็นผู้ที่ตั้งอยู่ในศีล สมาธิ ปัญญา และเมื่อเพิ่มพลังจิตให้กับใครก็ตามต้องรู้ทุกข์ รู้สาเหตุแห่งทุกข์ รู้หนทางดับทุกข์ และรู้วิธีการดับทุกข์นั้นๆโดยชัดแจ้งพร้อมตั้งตนอยู่ในพรหมวิหารธรรม และหิริโอตัปปธรรม #ผู้รับพลังจิตที่ดี คือ เป็นผู้ที่มี1. ศรัทธา ผู้รับต้องมีศรัทธาที่จะรับพลังจิต2. สมาธิ ผู้รับต้องมีความตั้งมั่นแห่งจิตอยู่กับกายและจิตของตน3. สติ ผู้รับต้องมีความระลึกได้ว่าตนกำลังรับพลังจิตอยู่4. ปัญญา ผู้รับต้องรู้จักการปล่อยวางความทุกข์ออกจากจิตใจในขณะนั้น5. ความขยันหมั่นเพียร การรับพลังจิตนั้นต้องรับสม่ำเสมอและให้ตั้งอยู่ในคำสอนของพุทธองค์เป็นหลัก ดังกล่าวแล้ว…