ให้ชีวิตมันเป็นต้นแบบของการเรียน
ให้ชีวิตมันเป็นต้นแบบของการเรียนรู้#ของขวัญที่ดีที่สุดคือการรู้สึกตัว#นั่งสมาธิก่อนนอนด้วยนะคะ
ให้ชีวิตมันเป็นต้นแบบของการเรียนรู้#ของขวัญที่ดีที่สุดคือการรู้สึกตัว#นั่งสมาธิก่อนนอนด้วยนะคะ
#เมื่ออัตตานั้นตายจากคุณมีคนฉลาดถามขึ้นว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากความตาย ? “คุณจะไม่หลุดพ้น เพราะคุณจะจากโลกนี้ไปด้วยรูปแบบนิสัยที่ไร้สติของคุณ นั่นคือพาหนะสําหรับ จิตใต้สำนึกหรือ จิตวิญญาณของแต่ละบุคคล จิตที่ขาดสติของคุณจะอยู่กับคุณ คุณจะยังคงเป็นรายบุคคลเพราะคุณมีรูปแบบทางกายของแต่ละบุคคลซึ่งได้รับการสร้างขึ้นจากรูปแบบนิสัย ความประทับใจ ความปรารถนา และแรงจูงใจของคุณ นิสัยของแต่ละบุคคลไม่เหมือนนิสัยของคนอื่น คุณแตกต่าง ไม่ใช่เพราะความคิดที่แตกต่าง แต่เพราะพฤติกรรมที่แตกต่างกัน ความต้องการที่แตกต่างกัน แรงจูงใจ ความประทับใจ จากนั้นคุณก็พัฒนารูปแบบนิสัยการปลดปล่อยทางจิตวิญญาณบรรดาผู้ที่หัวใจของพวกเขาได้รับการเจาะลึกโดยการดํารงอยู่ตลอดกาลของ อัตตมันเป็นอมตะ ความสัมพันธ์ใกล้ชิดของคุณกับความไม่สนใจที่ไม่ประมาทนั้น การพลัดพราก คือความตายที่หลอกหลอนคุณ ความกลัวเข้าไปในหัวใจ แต่ถ้าหลังจากการต่อสู้อย่างใหญ่หลวง คุณถอนรากและทิ้งตัวตนนั้นซึ่งเป็นความหลงลืมของตนเอง แล้วคุณจะบรรลุชีวิตอมตะ ผู้ที่อีโก้ของพวกเขาเสียชีวิตได้เข้าถึงสภาพความเป็นอมตะแล้ว พวกที่โง่เขลาที่มีอีโก้ที่พองตัวนั้นตายแล้วจริง ๆ ความตายไม่มีอะไรอื่นนอกจากความหลงผิดที่เพิ่มขึ้นโดยการนําร่างมนุษย์ต่างดาวเป็น ‘ฉัน’ ในขณะที่ความเป็นอมตะไม่มีอะไรนอกเหนือจากความสุขของตนเอง สติที่ปราศจากความแตกต่างซึ่งรวมกับคุณเมื่อความหลงผิด (อัตตา) นั้นตาย พระครูสันติวนานุรักษ์ (ชูชาติ อภิวฑฺฒโน)เจ้าคณะตำบลดงประคำ เขต ๑เจ้าอาวาสวัดพุทธสถานสันติวัน จ.พิษณุโลก (เยี่ยมชมประตูธรรม๕หนเหนือ)
#การเปิดญาณบารมี#และการเพิ่มและการรับพลังจิต บุคคลที่มีสมาธิดีจะมีคลื่นความถี่ และความรุนแรงของพลังงานความคิดสูง สามารถที่จะส่งพลังงานนั้น ไปยังบุคคลที่ตั้งเป้าหมาย ไว้ได้แน่ชัดทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ตัวผู้รับได้ตามความปราถนานั้น #เรียกว่าการเพิ่มและการรับพลังจิตการเพิ่มแต่ละครั้ง แต่ละคนไม่เหมือนกัน เพิ่มพลังจิต แต่ละครั้งนาน เท่าใด ผู้เพิ่มพลังจิตจะทราบได้ในสมาธิจิตนั้นหากผู้รับยังรับได้ ก็เพิ่มให้ต่อไปหากเห็นว่า พลังจิต #ที่ส่งไปนั้นหยุดลงก็หยุดเพิ่มพลังจิตในครั้งนั้น และต้องเพิ่มพลังจิตกี่ครั้งจึงจะได้ผลสิ่งนี้ไม่มีกำหนด แน่นอนขึ้นอยู่กับผู้รับ หากผู้รับสามารถรับพลังจิตได้มาก และเห็นว่าอวัยวะที่ผิดปกตินั้น เปลี่ยนเป็น ปกติเร็ว พลังจิตที่ส่งไปจะหยุดลง ควรหยุดเพิ่มพลังจิตให้ผู้รับพลังกลับไปทำสมาธิภาวนาด้วยตนเอง ผู้รับพลังจะสร้างพลังจิตที่ดีขึ้นมาได้ พลังจิตนั้นๆ จะบำบัดทุกข์ให้ได้ในที่สุด #การเพิ่มพลังจิตกระทำได้ 3 ทางคือ 1. เพิ่มที่อวัยวะนั้นโดยตรง2. เพิ่มที่จุดกำเนิดของพลังจิต คือที่ต่อมไพเนียล3. เพิ่มพลังจิตให้ครอบคลุมทั้งตัวผู้รับ จะเพิ่มให้ใครที่อวัยวะใดนั้นจะทราบและเห็นได้ในสมาธินั้นๆ #ผู้เพิ่มพลังจิตที่ดี ผู้เพิ่มพลังจิตที่ดีควรมีคุณสมบัติดังนี้คือเป็นผู้ที่ตั้งอยู่ในศีล สมาธิ ปัญญา และเมื่อเพิ่มพลังจิตให้กับใครก็ตามต้องรู้ทุกข์ รู้สาเหตุแห่งทุกข์ รู้หนทางดับทุกข์ และรู้วิธีการดับทุกข์นั้นๆโดยชัดแจ้งพร้อมตั้งตนอยู่ในพรหมวิหารธรรม และหิริโอตัปปธรรม #ผู้รับพลังจิตที่ดี คือ เป็นผู้ที่มี1. ศรัทธา ผู้รับต้องมีศรัทธาที่จะรับพลังจิต2. สมาธิ ผู้รับต้องมีความตั้งมั่นแห่งจิตอยู่กับกายและจิตของตน3. สติ ผู้รับต้องมีความระลึกได้ว่าตนกำลังรับพลังจิตอยู่4. ปัญญา ผู้รับต้องรู้จักการปล่อยวางความทุกข์ออกจากจิตใจในขณะนั้น5. ความขยันหมั่นเพียร การรับพลังจิตนั้นต้องรับสม่ำเสมอและให้ตั้งอยู่ในคำสอนของพุทธองค์เป็นหลัก ดังกล่าวแล้ว…
การอยู่ในวงของการกระทำซ้ำ ๆ นั้นไม่ใช่ปัญหา แต่ไม่รู้ การรู้ว่าเราอยู่ในวงของรูปแบบการคิดซ้ำ ๆ เป็นปัญหาเพราะจนกว่าเราจะตระหนักถึงรูปแบบที่เราจะติดอยู่ในวงเดียวกันอย่างไม่มีกำหนด การทำลายรูปแบบไม่ใช่จุดจบของเกมอย่างที่คุณจะวนซ้ำในที่สุด #ดังนั้นจงระวังการวนซ้ำและแก้ไขกระบวนการคิดไปสู่สภาวะจิตใจที่เหมาะสมที่สุดของคุณ คิดดี รู้สึกดี ชีวิตดี
#ผู้สร้างแรงบันดาลใจคือผู้นำที่แท้จริงที่เชื่อมั่นในตัวเอง ในอุดมการณ์ ความหลงใหล และแผนการของพวกเขา และเต็มใจที่จะใช้ชีวิตที่แท้จริงในการให้บริการผู้อื่น สังคม โลกของเรา #และหลายคนได้เปลี่ยนแปลงสภาพของมนุษย์อย่างแท้จริงมีคนจำนวนมากที่ไม่อยู่ในรายการที่สร้างความแตกต่างทุกวันและทำสิ่งต่าง ๆ ที่เป็นแรงบันดาลใจให้พวกเราทุกคน! คนเหล่านี้คือคนที่เราต้องการอยู่ใกล้ๆ ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้เราดีขึ้น ใหญ่กว่าตัวเรา เมตตา เอาใจใส่มากขึ้น และสร้างความแตกต่างในโลกทีละวัน#สิ่งที่สวยงามและน่าทึ่งเกี่ยวกับแรงบันดาลใจคือส่วนที่ “ธรรมดา” ของการเดินทางของมนุษย์กลายเป็น “#สิ่งที่ไม่ธรรมดา” #ด้วยพลังแห่งเจตจำนงเสรี, ความมุ่งมั่น, ความหลงใหล, จุดมุ่งหมาย, แง่บวก, ความปรารถนา, สมาธิ, สติ, การศึกษา, ความรู้, ปัญญา#และที่สำคัญที่สุดคือพลังแห่งการเลือกท่ามกลางเส้นทางชีวิตมากมาย อะไรเป็นแรงบันดาลใจให้เรา? ใครเป็นแรงบันดาลใจให้เรา? อะไรทำให้เราเหนื่อย? ใครทำให้เราเหนื่อย? #ทางเลือกเป็นของเราเสมอที่จะทำให้
?️? #นี่คือสัญญาณบางอย่างที่บ่งบอกว่าคุณอาจเป็นคนลึกลับ 1) #การเชื่อมต่อส่วนบุคคลมากกว่าข้อความและหลักคำสอนนักเวทย์ต้องการเชื่อมต่อกับจิตวิญญาณ เป็นการส่วนตัว แทนที่จะพึ่งพาประสบการณ์ทางจิตวิญญาณของคนอื่น พวกเขาชอบที่จะได้ยินเกี่ยวกับประสบการณ์ของผู้อื่น แต่ไม่ได้ผูกติดอยู่กับพวกเขา 2) #ตั้งคำถามเสมอ โดยธรรมชาติแล้ว ผู้วิเศษคือพวกนอกรีต พวกเขาถามคำถามที่บางคนคิดว่าไม่ควรถาม พวกเขาสงสัยเกี่ยวกับธรรมชาติของมนุษย์และธรรมชาติของการดำรงอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบความเชื่อทางศาสนา ไม่ยึดติดกับกระบวนทัศน์แบบเก่า 3) #อาศัยสัญชาตญาณ มีความสามารถในการพึ่งพาความเข้าใจอย่างถ่องแท้และการรับรู้โดยสัญชาตญาณ สิ่งเหล่านี้จำเป็นสำหรับผู้แสวงหาทางจิตวิญญาณ 4) #มองเห็นความจริงภายใน วัดความสำเร็จบนเส้นทางจิตวิญญาณตามการนำทางภายในของตนเอง มากกว่ารูปแบบและพิธีกรรมภายนอกบางอย่าง จุดประสงค์เดียวของพิธีกรรมคือการกระตุ้นให้เกิดความเข้าใจบางอย่างภายใน 5) #มองขึ้นไปบนดวงดาวด้วยความประหลาดใจ เวลามองขึ้นไปบนฟ้า ทำให้คุณหลุดพ้นจากความเป็นตัวเองหรือไม่? แม้ว่าคุณจะไม่ได้คิดถึงความเวิ้งว้างของจักรวาล แต่สิ่งนี้ก็ยังเป็นสัญญาณของการมองโลกที่ลึกลับ ซึ่งหมายความว่าคุณกำลังเชื่อมต่อกับความจริงที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นในจักรวาล 6) #รู้สึกเห็นอกเห็นใจกันมาก บ่อยครั้งมากเกินไป มีแนวโน้มที่จะอยู่เหนืออัตตา ดังนั้นขอบเขตระหว่างตนเองกับผู้อื่น #จึงไม่ถือตน 7) #การเชื่อมต่อกับธรรมชาติ ความรู้สึกผ่อนคลายเมื่อคุณอยู่ห่างจากอารยธรรมเป็นเรื่องปกติสำหรับผู้ลึกลับ ไม่เพียงเพราะความโดดเดี่ยว แต่ยังเพราะความมหัศจรรย์ของโลกธรรมชาติปรากฏขึ้นต่อหน้าเราเมื่อเราไม่ถูกรบกวนจากเมือง 8. #การอุทิศตนเพื่อความจริง รักในข้อเท็จจริงและความรู้ ตรงข้ามกับความคิดเห็นและการคาดเดา ผู้แสวงหาความจริงที่แท้จริงนั้นหายาก
#ไปเร็วได้#ก็เสื่อมได้#ไม่ควรประมาท ศึกษาเส้นทางจิตอริยะดีกว่าใช้ ทิฐิมานะ (ชนะตน)อวดดื้อถือดี ความดื้อรั้นความตะแบงทั้งที่รู้ว่าผิดแต่ไม่ยอมรับและไม่ยอมแก้ไข #วิธีที่ดีที่สุดในการพัฒนา#ความรักและความเห็นอกเห็นใจ การมีชีวิตอยู่ในยุคนี้เหมือนการติดอยู่บนเกาะที่มีปีศาจกินมนุษย์ เราไม่สามารถผ่อนคลายใจของเราได้ ทุกสถานการณ์ที่เราเจอสามารถ #เปลี่ยนเป็นแหล่งความทุกข์ยากได้อย่างง่ายดาย #และใครก็ตามที่เราพบมีแนวโน้มที่จะนําเราหลงผิด สิ่งหนึ่งที่แน่นอน #มีเพียงครูทางจิตวิญญาณเท่านั้นที่สามารถให้คําแนะนําที่ถูกต้องแก่เราได้ สิ่งนี้ควรจะชัดเจนในจิตใจของเรา เนื่องจากจิตใจถูกหลอกได้อย่างง่ายดายโดยการรับรู้ที่หลอกลวงของปรากฏการณ์ทางกายภาพและพัวพันได้ง่ายจากการพูดคุยทางโลกที่หลอกลวง #มันจะไม่ดีกว่าที่จะออกไปยังสถานที่โดดเดี่ยวเพื่อวิเวกและนั่งสมาธิ? นั่นคือวิธีที่ดีที่สุดในการพัฒนาความรักและความเห็นอกเห็นใจต่อสิ่งมีชีวิตที่มีความรู้สึ